Dune Prophecy (2024) ดูน คำพยากรณ์แห่งทราย

ดูซีรี่ย์ฝรั่ง Dune Prophecy (2024) ดูน คำพยากรณ์แห่งทราย หนึ่งหมื่นปีก่อนที่ Paul Atreides จะเข้าร่วมกับชาว Fremen เพื่อนำการก่อจลาจลใน Arrakis เพื่อโค่นล้มตระกูล Harkonnen พี่น้องสองคน (Valya และ Tula Harkonnen) ได้สร้างกลุ่มลึกลับที่ประกอบด้วยผู้หญิงล้วนที่เรียกว่า Bene Gesserit ใน Dune Prophecy พี่น้องทั้งสองต่อสู้กับกองกำลังที่คุกคามอนาคตของมนุษยชาติ ดูซีรี่ย์ Dune Prophecy (2024) ดูน คำพยากรณ์แห่งทราย ที่ kserietv

Ten thousand years before Paul Atreides joined the Fremen to lead an uprising on Arrakis to take down House Harkonnen, two sisters (Valya and Tula Harkonnen) create the mysterious all-female order called the Bene Gesserit. In Dune Prophecy, the siblings combat forces that threaten the future of humankind.

ดูซีรี่ย์ Dune Prophecy (2024) เจาะลึกต้นกำเนิดแห่งคณะเบเนเจสเซริต ก่อนกำเนิดพอล อะเทรดีส

Dune: Prophecy ซีรีส์ฟอร์มยักษ์เรื่องล่าสุดจากจักรวาลดูนที่จะพาผู้ชมย้อนเวลากลับไปกว่า 10,000 ปี ก่อนเหตุการณ์ในภาพยนตร์ Dune เพื่อสำรวจจุดเริ่มต้นอันลึกลับของ “เบเนเจสเซริต” (Bene Gesserit) คณะภคินีลึกลับที่ทรงอิทธิพลและอำนาจเหนือการเมืองของจักรวรรดิ ซีรีส์เรื่องนี้จะเปิดเผยเรื่องราวการต่อสู้ การเมือง และความเชื่อที่หล่อหลอมให้พวกเธอกลายเป็นผู้ชักใยเบื้องหลังบัลลังก์ที่ทุกคนต้องยำเกรง

สำหรับแฟนตัวยงของมหากาพย์ไซไฟเรื่องนี้ และผู้ที่ต้องการขยายจักรวาลดูนให้กว้างไกลยิ่งขึ้น เว็บไซต์ kserietv.co ของเราได้รวบรวมทุกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ Dune: Prophecy มาไว้ที่นี่แล้ว

เรื่องย่อ: ปฐมบทแห่งภคินีผู้ทรงอำนาจ

Dune: Prophecy จะเล่าเรื่องราวผ่านสายตาของสองพี่น้องตระกูลฮาร์คอนเนน (Harkonnen) วัลยา (Valya) และ ทูลา (Tula) ในช่วงเวลาที่มนุษยชาติยังคงฟื้นตัวจากสงครามครั้งใหญ่กับเครื่องจักรสมองกลที่เรียกว่า “บัตเลอเรียน จิฮาด” (Butlerian Jihad) ทั้งสองได้เข้าร่วมกับองค์กรภคินีลึกลับที่รู้จักกันในนาม “ซิสเตอร์ฮูดแห่งรอสซัค” (Sisterhood of Rossak) ซึ่งต่อมาได้พัฒนาและกลายเป็นคณะเบเนเจสเซริตที่เรารู้จัก

พวกเธอต้องต่อสู้กับอำนาจมืดที่คุกคามอนาคตของมวลมนุษย์ พร้อมกับวางรากฐานให้กับโครงการเพาะพันธุ์ควิซาดซ์ ฮาเดอรัค (Kwisatz Haderach) สิ่งมีชีวิตขั้นสูงสุดที่จะมาเปลี่ยนแปลงจักรวาลไปตลอดกาล ซีรีส์จะพาเราไปสำรวจความขัดแย้งภายในองค์กร การวางแผนทางการเมืองที่ซับซ้อน และการเสียสละเพื่อเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่า

นักแสดงและทีมงานเบื้องหลัง

Dune: Prophecy ได้รวบรวมนักแสดงมากฝีมือมารับบทบาทสำคัญที่จะทำให้เรื่องราวมีชีวิตชีวา นำโดย:

• เอมิลี วัตสัน (Emily Watson) รับบทเป็น วัลยา ฮาร์คอนเนน (Valya Harkonnen)
• โอลิเวีย วิลเลียมส์ (Olivia Williams) รับบทเป็น ทูลา ฮาร์คอนเนน (Tula Harkonnen)
• มาร์ค สตรอง (Mark Strong) รับบทเป็น จักรพรรดิจาวิชโค คอร์ริโน (Emperor Javicco Corrino)
• ทราวิส ฟิมเมล (Travis Fimmel) รับบทเป็น เดสมอนด์ ฮาร์ต (Desmond Hart)
• โจดิ เมย์ (Jodhi May) รับบทเป็น จักรพรรดินีนาตาเลีย (Empress Natalya)

ซีรีส์เรื่องนี้ได้ อลิสัน แชปเกอร์ (Alison Schapker) มาทำหน้าที่เป็นโชว์รันเนอร์และผู้อำนวยการสร้างฝ่ายบริหาร ร่วมกับทีมผู้สร้างมากประสบการณ์อีกคับคั่ง เพื่อให้แน่ใจว่าเรื่องราวจะยังคงกลิ่นอายและเคารพต้นฉบับของแฟรงค์ เฮอร์เบิร์ต ผู้ประพันธ์นิยาย Dune ได้อย่างสมบูรณ์

รีวิวและกระแสตอบรับ

Dune: Prophecy ได้รับการตอบรับที่หลากหลายจากนักวิจารณ์ แต่โดยรวมแล้วอยู่ในเกณฑ์ดี

• IMDb: (ผ่าน Metacritic) ได้รับคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 64/100 จากนักวิจารณ์ 34 คน ซึ่งบ่งชี้ว่าเป็นที่ชื่นชอบโดยทั่วไป นักวิจารณ์ชื่นชมการแสดงที่ทรงพลังของนักแสดงนำ โดยเฉพาะเอมิลี วัตสัน และโอลิเวีย วิลเลียมส์ รวมถึงการขยายโลกของดูนให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
• Rotten Tomatoes: ได้คะแนนจากนักวิจารณ์สูงถึง 70% โดยเสียงวิจารณ์ส่วนใหญ่เห็นพ้องว่า “แม้จะขาดรสชาติเผ็ดร้อนแบบภาพยนตร์ของเดอนี วีลเนิฟว์ แต่ Dune: Prophecy ก็ชดเชยด้วยเล่ห์เหลี่ยมทางการเมืองในวังที่น่าติดตาม”

L. G.

⭐ ⭐ ⭐ ⭐ ⭐

(5/5)

ซีรีส์ Dune ใหม่ซึ่งเปิดตัวในปี 2024 เป็นการสานต่อเรื่องราวอันโด่งดังจากจักรวาลของแฟรงค์ เฮอร์เบิร์ตอย่างไม่ธรรมดาและยิ่งใหญ่อลังการ ซีรีส์นี้ต่อยอดจากธีมหลักของมหากาพย์ Dune ขณะเดียวกันก็นำเสนอมุมมองใหม่ๆ และทำให้เนื้อเรื่องที่ซับซ้อนอยู่แล้วมีความลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ซีรีส์นี้สร้างความประทับใจเป็นพิเศษด้วยภาพ ทะเลทรายอาร์ราคิสถูกถ่ายทอดออกมาอย่างสมจริงและละเอียดลออ ซึ่งถ่ายทอดทั้งความโหดร้ายของดาวเคราะห์และความงามอันลึกลับได้อย่างลงตัว เครื่องแต่งกาย ฉาก และเอฟเฟกต์พิเศษล้วนช่วยสร้างบรรยากาศที่ดื่มด่ำและทำให้จักรวาลมีชีวิตชีวา

พล็อตเรื่องมีความลึกซึ้งและอิงจากหนังสือ Dune ต้นฉบับอย่างมาก แต่ให้ตัวละครมีพื้นที่ในการพัฒนามากขึ้น ทำให้เรื่องราวมีความซับซ้อนทางอารมณ์และการบรรยายมากยิ่งขึ้น วิธีการที่กล่าวถึงความซับซ้อนทางการเมืองและศาสนาที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมเครื่องเทศเมลังจ์และระบบนิเวศของอาร์ราคิสนั้นประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง ซีรีส์นี้สามารถถ่ายทอดแนวคิดทางปรัชญาและนิเวศวิทยา-จิตวิญญาณของ Dune ได้โดยไม่เสียจังหวะหรือความตึงเครียด

นักแสดงแสดงได้ยอดเยี่ยม ตัวละครที่เราคุ้นเคยจากนวนิยาย เช่น Paul Atreides และ Lady Jessica ถ่ายทอดออกมาได้อย่างสมจริง แต่ซีรีส์ยังสามารถแนะนำตัวละครใหม่ๆ และนำเสนอเรื่องราวของตัวละครรองได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ข้อดีอีกอย่างคือซีรีส์นี้ไม่ได้เน้นไปที่รูปแบบการเล่าเรื่องที่เน้นแอคชั่นมากเกินไป แต่เน้นที่ธีมที่ลึกซึ้ง เช่น อำนาจ โชคชะตา และจิตวิญญาณ ในขณะเดียวกัน ซีรีส์ก็สามารถดึงดูดผู้ชมด้วยเนื้อเรื่องที่น่าติดตามและจุดพลิกผันที่น่าประหลาดใจ

บทสรุป:
ซีรีส์ Dune ใหม่นี้ดัดแปลงมาจากโลกอันล้ำลึกและซับซ้อนของ Frank Herbert ได้อย่างยอดเยี่ยม
ซีรีส์นี้สามารถดึงดูดทั้งแฟนๆ ของหนังสือและผู้อ่านหน้าใหม่ได้สำเร็จ
หากคุณชื่นชอบนิยายวิทยาศาสตร์ที่ซับซ้อนและซับซ้อนพร้อมภาพที่สวยงามและตัวละครที่แข็งแกร่ง ซีรีส์นี้ถือเป็นสิ่งที่ต้องดูอย่างยิ่ง

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q: จำเป็นต้องเคยดูหนัง Dune มาก่อนหรือไม่? A: แม้ว่าการได้รับชมภาพยนตร์ Dune (2021) และ Dune: Part Two (2024) มาก่อนจะช่วยให้เข้าใจบริบทของโลกและองค์กรต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น แต่ Dune: Prophecy ถูกสร้างขึ้นมาให้เป็นภาคปฐมบทที่สามารถเริ่มต้นรับชมได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานมาก่อนครับ

Q: ซีรีส์จะเชื่อมโยงกับตระกูลอะเทรดีสหรือไม่? A: เนื่องจากเรื่องราวเกิดขึ้นก่อนยุคของพอล อะเทรดีสถึง 10,000 ปี ตัวละครหลักที่เราคุ้นเคยจะยังไม่ปรากฏตัว แต่ซีรีส์จะปูพื้นฐานและอธิบายถึงเหตุการณ์สำคัญที่เป็นต้นกำเนิดความขัดแย้งระหว่างตระกูลฮาร์คอนเนนและตระกูลอะเทรดีสในอนาคต

Q: ซีรีส์มีความยาวกี่ตอน? A: ซีซั่นแรกของ Dune: Prophecy จะมีทั้งหมด 6 ตอน ซึ่งจะออกอากาศให้ชมทุกสัปดาห์

Q: หาชม Dune: Prophecy ได้ที่ไหน? A: คุณสามารถติดตามรับชมได้ทาง HBO และบริการสตรีมมิ่ง Max ครับ สำหรับแฟนๆ ชาวไทยที่ติดตามข่าวสาร สามารถแวะมาอัปเดตข้อมูลล่าสุดได้ที่เว็บไซต์ kserietv.co ของเรา