เรื่องย่อ : Goodbye Earth (2024) ถึงเวลาต้องลาโลก ดูซีรี่ย์ออนไลน์ พากย์ไทย ซับไทย ซีรี่ย์2023 เว็บไซต์ดูซีรี่ย์คุณภาพคมชัด 1080p ซีรี่ย์อัพเดทใหม่ ไม่กระตุก ซีรี่ย์เกาหลี ซีรี่ย์จีน ซีรี่ย์ญีปุ่น วาไรตี้เกาหลีญีปุ่น ซีรี่ย์ไทย อัพเดทก่อนใคร ดูซีรี่ย์ไม่มีโฆษณากวนใจ BY kseriestv เคซีรี่ย์

ดูซีรี่ย์ฝรั่ง Goodbye Earth (2024) ถึงเวลาต้องลาโลก ดาวเคราะห์น้อยกำลังจะพุ่งชนโลกใน 200 วันและทำลายล้างโลก ในไม่ช้าโลกก็รู้ข่าวและตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย Jin Se Kyung ทำงานเป็นครูโรงเรียนมัธยมในเมือง Woongchun เธอได้เรียนรู้เกี่ยวกับการสิ้นสุดของโลกที่กำลังจะเกิดขึ้น เธอตัดสินใจลาออกจากงานและไปทำงานอาสาสมัครที่แผนกเด็กและเยาวชนในศาลากลางจังหวัด เธอต่อสู้ดิ้นรนเพื่อช่วยเด็ก ๆ ที่ตกอยู่ในอันตราย แฟนของเธอที่คบกันมาหลายปีคือฮายุนซัง ปัจจุบันเขาทำงานเป็นนักวิจัยในสถาบันวิจัยเทคโนโลยีชีวภาพในสหรัฐอเมริกา หลังจากข่าววันสิ้นโลกถูกเผยแพร่ เขาก็บินกลับไปเกาหลีใต้เพื่ออยู่กับจินเซคยอง Woo Sung Jae เป็นผู้ช่วยนักบวชที่โบสถ์คาทอลิก บาทหลวงประธานในโบสถ์หลบหนีไปหลังจากมีข่าวเกี่ยวกับดาวเคราะห์น้อยที่กำลังเข้าใกล้ ตอนนี้ Woo Sung Jae ดูแลนักบวชที่โบสถ์ คังอินเอเป็นผู้บัญชาการกองพันสนับสนุนการต่อสู้ เธอเดินทางไปรอบๆ เมือง Woongchun ซึ่งพังทลายลง เพื่อจัดหาเสบียง การขนส่ง และการรักษาความปลอดภัย ดูซีรี่ย์ Goodbye Earth (2024) ถึงเวลาต้องลาโลก ที่ kserietv
An asteroid is on course to crash into Earth in 200 days and destroy the planet. The world soon learns of the news and falls into chaos. Jin Se Kyung works as a middle-school teacher in Woongchun City. She learns about the impending end of the world. She decides to quit her job and do volunteer work at a child and youth division in city hall.
She struggles to save children in danger. Her boyfriend of many years is Ha Yoon Sang. He currently works as a researcher at a biotechnology research institute in the United States. After news of the end of the world is released, he flies back to South Korea to be with Jin Se Kyung. Woo Sung Jae is an assistant priest at a Catholic Church.
The presiding priest at the church ran away after news broke out about the approaching asteroid. Woo Sung Jae now takes care of the parishioners at the church. Kang In A is a commander of a combat support battalion. She goes around Woongchun City, which has been ruined, to provide supplies, transport and security.
Native Title: 종말의 바보
Also Known As: The Fool at the End of the World , The Fool of the End , Jongmalui Babo
Screenwriter: Jung Sung Joo
Director: Kim Jin Min
Genres: Thriller, Psychological, Drama, Sci-Fi
Tags: Former Teacher Female Lead, Protective Female Lead, Volunteer Female Lead, Commander Female Lead, Priest Male Lead, Researcher Male Lead, Doomsday, Asteroid, Protective Male Lead, Return From Abroad
เล่าเรื่องราวสุดระทึกเมื่อมีการประกาศอย่างเป็นทางการว่า ดาวเคราะห์น้อย “ไดน่า” กำลังจะพุ่งชนโลกในอีก 200 วันข้างหน้า และจุดที่คาดว่าจะตกกระทบก็คือคาบสมุทรเกาหลี สถานการณ์โลกเข้าสู่ภาวะโกลาหล กฎหมายและระเบียบสังคมพังทลายลง ผู้คนแตกออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ๆ คือกลุ่มที่สิ้นหวังและใช้ชีวิตที่เหลืออย่างเลื่อนลอย กับกลุ่มที่ยังคงยึดมั่นในความเป็นมนุษย์และพยายามทำทุกวันให้ดีที่สุด
เรื่องราวจะโฟกัสไปที่ผู้คนในเมืองอุงชอน ผ่านตัวละครหลัก 4 คนที่ต้องเผชิญหน้ากับชะตากรรมที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
แนะนำนักแสดงหลัก
ผู้กำกับ: คิมจินมิน (ผลงานสร้างชื่ออย่าง Extracurricular, My Name)
สวัสดีชาว kserietv ทุกคนค่ะ! หากพูดถึงซีรีส์แนววันสิ้นโลก หลายคนคงนึกถึงภาพการวิ่งหนีเอาตัวรอด ฉากแอ็คชั่นระเบิดภูเขาเผากระท่อม แต่ถ้าคุณกำลังมองหาซีรีส์วันสิ้นโลกในมุมมองที่แตกต่างออกไป ที่เน้นการสำรวจจิตใจมนุษย์อย่างลึกซึ้ง หรือในชื่อไทย “ถึงเวลาต้องลาโลก” จาก Netflix คือคำตอบที่คุณไม่ควรพลาด
ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้ตั้งคำถามว่า “เราจะรอดได้อย่างไร?” แต่ตั้งคำถามที่หนักหน่วงกว่านั้นคือ “เมื่อรู้ว่าต้องตาย เราจะใช้ชีวิตที่เหลืออย่างไร?”
รีวิวเจาะลึก Goodbye Earth ในมุมมองของ kserietv
มุมมองที่แตกต่างของวันสิ้นโลก
สิ่งที่ทำให้ โดดเด่นคือการเล่าเรื่องที่เน้น “ดราม่าและปรัชญา” มากกว่า “แอ็คชั่นไซไฟ” ซีรีส์ไม่ได้พาเราไปดูการหาทางหยุดอุกกาบาต แต่พาเราไปสำรวจผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสังคมและจิตใจของผู้คน มันคือการเฝ้ามองมนุษย์ในสภาวะที่เปลือยเปล่าที่สุด เมื่อไม่มีอนาคตให้คาดหวัง สิ่งที่เรียกว่า “ศีลธรรม” หรือ “ความดี” จะยังคงอยู่หรือไม่
การแสดงที่ตราตรึงใจ
อันอึนจิน คือหัวใจของเรื่องอย่างแท้จริง เธอถ่ายทอดบทบาทของจินเซคยองออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งความเข้มแข็ง ความเปราะบาง และความมุ่งมั่นที่จะปกป้องเด็กๆ ทำให้คนดูเอาใจช่วยและเจ็บปวดไปกับเธอ ในขณะที่บทบาทของ ยูอาอิน แม้จะถูกตัดต่อและลดทอนลงไปจากประเด็นข่าวนอกจอ แต่ทุกฉากที่ปรากฏตัวก็ยังคงทรงพลังและมีความสำคัญต่อเส้นเรื่องของเซคยอง
ประเด็นน่าขบคิดที่ซีรีส์ทิ้งไว้
ซีรีส์ชวนให้เราตั้งคำถามกับตัวเองตลอดเวลาว่า “ถ้าเป็นเราจะทำอย่างไร?” เราจะเลือกใช้ชีวิตอย่างมีความหมาย หรือจะปล่อยตัวไปตามสัญชาตญาณดิบ? ซีรีส์สะท้อนให้เห็นทั้งด้านที่งดงามและน่าเกลียดของมนุษย์ ทั้งความเสียสละ ความเห็นแก่ตัว ความเชื่อ และความหวัง
คะแนนรีวิวจากสื่อนอก
Marília Albuquerque
⭐ ⭐ ⭐ ⭐ ⭐
เรื่องราวเกิดขึ้นในจุดสิ้นสุดของโลกที่จะเกิดขึ้นพร้อมกับการมาถึงของดาวเคราะห์น้อย อย่างไรก็ตาม มีเพียงในบทสุดท้ายเท่านั้นที่ฉันรู้ว่าประเด็นหลักไม่ใช่เรื่องนี้ แต่เป็นเรื่องราวดราม่าส่วนตัวของครูที่สูญเสียนักเรียนในชั้นเรียนในการสังหารหมู่ของการประท้วงที่เกิดขึ้นเมื่อเริ่มต้น ตอนจบทำลายความคาดหวังโดยสิ้นเชิง เพราะเธอเรียกร้องความยุติธรรมต่อกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของเด็ก ๆ (การแจ้งเตือนโดยสปอยล์) และแม้ว่าบทสุดท้ายจะยังเปิดกว้างอยู่ แต่ในการตีความของฉัน เธอเสียชีวิตเพียงไม่กี่วันก่อนที่ดาวเคราะห์น้อยจะมาถึง บางสิ่งบางอย่างทำให้เธอไม่เพิกเฉยต่อบางสิ่งแม้จะถึงจุดสิ้นสุดของโลกและปฏิบัติตามนั้น ฉันพบว่าพัฒนาการนี้ของครูมีความซับซ้อนมาก ต่างจากสามีของเธอที่สามารถช่วยชีวิตตัวเองและเลือกที่จะอยู่กับเธอไปจนวาระสุดท้าย (ทั้งชีวิตและโลก) เธอไม่ได้ทำแบบเดียวกันกับเขา ฉันอยากจะดูมันอีกครั้ง เพราะฉันคิดว่ามันมีหลายชั้นเกินกว่าจะเข้าใจได้ เรื่องราวมีจังหวะที่ยากต่อการติดตามและทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และมันทำให้เราไม่รู้ตัวเล็กน้อยเกี่ยวกับสมมติฐานของการสิ้นสุดของโลก ซึ่งเป็นเพียงสถานการณ์สำหรับการพัฒนาความสัมพันธ์


คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: Goodbye Earth มีทั้งหมดกี่ตอน? A: มีทั้งหมด 12 ตอน สามารถรับชมได้ครบทุกตอนทาง Netflix ค่ะ
Q: ซีรีส์เรื่องนี้เศร้ามากไหม? ต้องเตรียมทิชชู่หรือเปล่า? A: เป็นซีรีส์ที่โทนเรื่องค่อนข้างหม่นและหนักหน่วงค่ะ อาจไม่ได้บีบคั้นน้ำตาตลอดเวลา แต่จะทิ้งความรู้สึกหน่วงๆ และชวนให้ขบคิดมากกว่า แนะนำให้เตรียมใจรับความดาร์กของเนื้อหาค่ะ
Q: มีฉากแอ็คชั่นเยอะไหม? A: มีฉากแอ็คชั่นและความรุนแรงอยู่บ้าง แต่ไม่ใช่จุดขายหลักของเรื่องค่ะ ซีรีส์เน้นไปที่การพัฒนาของตัวละครและสถานการณ์ทางสังคมมากกว่า
Q: สรุปแล้ว Goodbye Earth (2024) คุ้มค่าแก่การดูไหม? A: ถ้าคุณชอบซีรีส์แนวปรัชญา ตั้งคำถามกับชีวิต และเน้นการสำรวจจิตใจมนุษย์ เรื่องนี้คือซีรีส์คุณภาพที่คุณไม่ควรพลาด แต่ถ้าคุณคาดหวังฉากเอาตัวรอดมันส์ๆ แบบหนังฮอลลีวูด เรื่องนี้อาจจะไม่ใช่แนวของคุณค่ะ