Halo Season 1 (2022) ฮาโล เทพสงครามล้างพันธุ์อสูร ซีซั่น 1

ดูซีรี่ย์ฝรั่ง Halo Season 1 (2022) ฮาโล เทพสงครามล้างพันธุ์อสูร ซีซั่น 1 ละครแนววิทยาศาสตร์ที่จินตนาการล้ำเลิศเกี่ยวกับมนุษย์ โดยมีฉากหลังเป็นการตั้งอาณานิคมระหว่างดวงดาวในศตวรรษที่ 26 อนาคตของมนุษยชาติตกอยู่ในอันตรายเมื่อเส้นทางของเรามาบรรจบกับพันธมิตรต่างดาวที่ทรงพลังอย่าง Covenant  ดูซีรี่ย์ Halo Season 1 (2022) ฮาโล เทพสงครามล้างพันธุ์อสูร ซีซั่น 1 ที่ kserietv

A richly imagined and human sci-fi drama, set against the backdrop of interstellar colonization in the 26th century. Mankind’s very future is threatened when our paths cross with a powerful alien alliance, the Covenant.

ดูซีรี่ย์ Halo Season 1 (2022) ซีรีส์ไซไฟฟอร์มยักษ์จากวิดีโอเกมระดับตำนาน

สวัสดีครับแฟนๆ Kserietv! วันนี้เราจะพาทุกคนทะยานสู่จักรวาลอันไกลโพ้นกับซีรีส์แอ็คชั่นไซไฟสุดอลังการที่ดัดแปลงจากวิดีโอเกมชื่อดังระดับโลก ซึ่งออกอากาศทาง Paramount+ และในที่สุดก็ได้มาให้แฟนๆ ชาวไทยได้รับชมกันแล้ว บทความนี้จาก kserietv.co จะมารีวิวเจาะลึกทุกแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่อง นักแสดง ฉากแอ็คชั่นสุดมันส์ พร้อมทั้งสปอยล์เล็กๆ น้อยๆ พอหอมปากหอมคอ ถ้าพร้อมแล้วก็สวมชุดเกราะสปาร์ตันแล้วตามมาเลยครับ!

เรื่องย่อ Halo Season 1: เมื่อสุดยอดทหารต้องค้นหาความเป็นมนุษย์

ซีรีส์ Halo พาเราไปสู่ศตวรรษที่ 26 ท่ามกลางสงครามอันดุเดือดระหว่างกองกำลังของมนุษยชาติ UNSC (United Nations Space Command) และ “เดอะ โคเวแนนท์” (The Covenant) พันธมิตรทางทหารของเหล่าเอเลี่ยนต่างดาวที่เชื่อในเรื่องเทววิทยาและมุ่งมั่นที่จะกำจัดมนุษย์ให้สิ้นซาก

เรื่องราวโฟกัสไปที่ มาสเตอร์ชีฟ เพตตี้ ออฟฟิเซอร์ จอห์น-117 (Master Chief Petty Officer John-117) ที่รับบทโดย พาโบล ชไรเบอร์ (Pablo Schreiber) สุดยอดทหารในโครงการ “สปาร์ตัน-II” ที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรมและฝึกฝนมาตั้งแต่เด็กเพื่อเป็นอาวุธสังหารที่มีชีวิต เขาและหน่วยซิลเวอร์ (Silver Team) เข้าต่อสู้กับโคเวแนนท์อย่างไม่เคยตั้งคำถาม จนกระทั่งในภารกิจหนึ่งบนดาวมาดริดกัล เขาได้สัมผัสกับวัตถุโบราณของ “ฟอร์รันเนอร์” (Forerunner) ที่ปลดล็อกความทรงจำในวัยเด็กที่ถูกลบไป ทำให้เขาเริ่มตั้งคำถามถึงตัวตนและภารกิจที่เคยเชื่อมั่นมาตลอดชีวิต

การเดินทางของมาสเตอร์ชีฟในซีซั่นแรกนี้จึงไม่ใช่แค่การรบราฆ่าฟันกับเอเลี่ยน แต่เป็นการต่อสู้ภายในจิตใจเพื่อค้นหาความเป็นมนุษย์ที่หายไป พร้อมกับการปกป้องเด็กสาวผู้รอดชีวิตนามว่า ควอน ฮา (Kwan Ha) และไขปริศนาของวัตถุโบราณที่อาจเป็นกุญแจสำคัญสู่การหยุดยั้งสงครามครั้งนี้

แนะนำนักแสดงและทีมผู้สร้าง

ได้นักแสดงและทีมงานมากฝีมือมาร่วมสร้างสรรค์จักรวาลนี้ให้มีชีวิตขึ้นมา

• พาโบล ชไรเบอร์ (Pablo Schreiber) ในบท มาสเตอร์ชีฟ จอห์น-117: ถ่ายทอดบทบาทสุดยอดทหารผู้แข็งแกร่งแต่ภายในกลับสับสนและเปราะบางได้อย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะการที่ซีรีส์เลือกจะให้เขาถอดหมวกกันน็อก ซึ่งเป็นจุดที่แตกต่างจากเกมและสร้างมิติใหม่ให้กับตัวละคร
• นาตาชา แม็คเอลฮอน (Natascha McElhone) ในบท ดร.แคทเธอรีน ฮัลซีย์: นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะผู้สร้างโครงการสปาร์ตันและ AI อัจฉริยะ “คอร์ทานา” เธอเป็นตัวละครที่ซับซ้อนและมีศีลธรรมสีเทา
• เจน เทย์เลอร์ (Jen Taylor) ให้เสียงเป็น คอร์ทานา (Cortana): แฟนเกมต้องคุ้นเคยกันดี เพราะเธอคือผู้ให้เสียงคอร์ทานาในเวอร์ชันวิดีโอเกมต้นฉบับ
• เยริน ฮา (Yerin Ha) ในบท ควอน ฮา: ตัวละครใหม่ที่สร้างขึ้นสำหรับซีรีส์โดยเฉพาะ เป็นตัวแทนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม
• โบคีม วูดไบน์ (Bokeem Woodbine) ในบท โซเรน-066: อดีตสปาร์ตันเพื่อนเก่าของจอห์นที่หนีออกจากโครงการและกลายเป็นโจรสลัดอวกาศ

ซีรีส์เรื่องนี้อำนวยการสร้างโดยทีมงานระดับฮอลลีวูด ซึ่งรวมถึง สตีเวน สปีลเบิร์ก (Steven Spielberg) ผ่านบริษัท Amblin Television ของเขา ทำให้มั่นใจได้ในเรื่องของคุณภาพงานสร้างที่ยิ่งใหญ่และวิชวลเอฟเฟกต์ที่ตระการตา

รีวิวจากนักวิจารณ์และคะแนนจากเว็บดัง

ได้รับเสียงตอบรับที่หลากหลายจากนักวิจารณ์และผู้ชมทั่วไป แต่โดยรวมแล้วถือว่าทำออกมาได้น่าประทับใจในฐานะซีรีส์ที่ดัดแปลงจากเกม

• IMDb: ได้คะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 7.2/10 ซึ่งถือว่าเป็นคะแนนที่ค่อนข้างดีสำหรับซีรีส์แนวไซไฟแอ็คชั่น ผู้ชมส่วนใหญ่ชื่นชมในฉากแอ็คชั่นที่ทำได้ถึงใจและงานภาพที่สวยงาม
• Rotten Tomatoes: ได้รับคะแนนจากนักวิจารณ์ไป 70% (Certified Fresh) โดยนักวิจารณ์ชื่นชมการแสดงของพาโบล ชไรเบอร์ และสเกลของงานสร้างที่ยิ่งใหญ่ แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ในเรื่องของการปรับเปลี่ยนเนื้อหาบางส่วนจากต้นฉบับวิดีโอเกม

โดยสรุป kserietv มองว่า เป็นซีรีส์ที่แฟนเกมไม่ควรพลาด และสำหรับผู้ชมทั่วไปที่ชื่นชอบหนังไซไฟสงครามอวกาศ ก็สามารถสนุกไปกับมันได้อย่างแน่นอน แม้จะมีจุดที่แตกต่างจากเกมไปบ้าง แต่แกนหลักของเรื่องราวและเสน่ห์ของตัวละครมาสเตอร์ชีฟยังคงอยู่ครบถ้วน

Kati Sonne

⭐ ⭐ ⭐ ⭐ ⭐

ความบันเทิงระดับสูงที่ระดับภาพสูง

“Halo” ต้องการที่จะให้เข้าใจเป็นเรื่องราวที่แยกจากกัน เนื่องจากฉันไม่ได้เล่นเกมนี้และไม่ได้มีอคติ มันก็เลยใช้งานได้ คุณจะได้รับซีรีส์แอคชั่นที่สร้างขึ้นมาอย่างดีพร้อมเอฟเฟกต์พิเศษจากผู้เชี่ยวชาญ Pixomondo (เช่น House of Dragon, Game of Thrones) และเนื้อเรื่องคนดีต่อสู้กับเอเลี่ยนตัวร้าย

สำหรับบางคน มันอาจเริ่มต้นช้าเล็กน้อยเนื่องจากโลกและตัวละครกำลังสร้างขึ้น แต่เนื่องจากฉันไม่คุ้นเคยกับเนื้อหาของเกม มันจึงค่อนข้างมีประโยชน์ มีการต่อสู้ครั้งใหญ่ในช่วงไม่กี่นาทีแรก ซึ่งแต่ละฝ่ายสามารถแสดงให้เห็นว่าพวกเขาสามารถทำอะไรได้บ้าง

การตัดสินใจที่จะแสดงให้เห็นว่ามีบุคคลที่มีเลือดเนื้ออยู่เบื้องหลังหมวกเกราะ ว่าจอห์นคิดและรู้สึกอย่างไร เขาเปราะบางเพียงใดเมื่อเขาไม่ได้อยู่หลังชุดเกราะของเขา และว่าคนๆ หนึ่งพังทลายเพียงใด นั่นคือจุดแข็งประการหนึ่งของซีรีส์นี้ สิ่งนี้ทำให้ตัวละครเข้าถึงอารมณ์ได้ง่าย นักแสดงนำอย่าง ปาโบล ชไรเออร์ รับบทจอห์น ซึ่งเหมาะกับบทบาทนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ตัวละครหลายตัวมีมิติที่ค่อยๆ เผยออกมา เป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้เห็นว่าภาคส่วนต่างๆ ที่เคยถูกมองว่าเป็นเพียงเครื่องจักรและถูกปฏิเสธความรู้สึกและความคิดที่เป็นอิสระกลับพัฒนาขึ้นมาได้อย่างไร จิตวิญญาณของทีมที่ก้าวข้ามห่วงโซ่การบังคับบัญชาได้อย่างไร มีเรื่องราวหลายเรื่องในซีรีย์นี้ที่เชื่อมโยงกันทั้งหมด ทุกสิ่งทุกอย่างยังคงเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และคุณจะต้องแยกแยะว่าใครมีเจตนาไม่ดีและใครมีเจตนาดีอยู่เสมอ

จุดแข็งที่สำคัญประการที่สองของซีรีส์นี้คือคุณภาพการผลิตที่สูง แทบทุกสิ่งทุกอย่างก็อยู่ตรงนี้เอง (ยกเว้นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่คุณมองข้ามไปและคุณไม่สนใจ) พลังของภาพนั้นเหลือเชื่อมาก บรรยากาศหนาแน่นที่ถูกสร้างขึ้นดึงดูดผู้ชมให้ลึกเข้าไปสู่ความกว้างใหญ่ของอวกาศมากขึ้นเรื่อยๆ David Wiener รู้วิธีสร้างความตึงเครียด เช่น ในสถานที่มืด มัว และแคบ – มีศัตรูหายใจรดต้นคอ กล้องรุ่นนี้ให้ภาพที่สวยงามและดูเหมือนว่าจะได้รับแรงบันดาลใจจากสไตล์วิดีโอเกม ตัวอย่างเช่น ยังมีฉากจากมุมมองของ Master Chief ด้วย ซึ่งเป็นการยกย่องเกมแนวยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่งอย่างชัดเจน สรุปสั้นๆ ก็คือ หลังจากดูซีรีส์ Halo แล้ว คุณจะรู้สึกอยากเล่นเกมนี้ขึ้นมา ฉาก อุปกรณ์ ชุดเกราะ อาวุธ ยานอวกาศ รวมถึง “โลก” ต่างๆ ได้รับการออกแบบด้วยความใส่ใจในรายละเอียดอย่างมากจนกลายเป็น
นิยายวิทยาศาสตร์ทำให้หัวใจของคุณเต้นแรงขึ้น การต่อสู้มีความรวดเร็วและมีจังหวะที่รวดเร็ว เมื่อรวมกับ CGI แล้ว ถือว่าน่าประทับใจมาก “ฮาโล” ในระดับที่สูงอย่างยิ่ง

ใครก็ตามที่ยึดติดกับสิ่งเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือหรือเทมเพลตเกม จะต้องผิดหวังเสมอ และควรยึดติดกับ “สิ่งเดิมๆ” คุณควรเปิดรับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และมองว่ามันเป็นเรื่องราวที่ถูกแก้ไขแล้ว จากนั้นคุณก็จะเพลิดเพลินไปกับมันได้ นี่คือซีรีส์แนววิทยาศาสตร์สำหรับผู้ชมทั่วไป ไม่ใช่แค่เพียงเรื่องย่อแบบภาพยนตร์ที่เน้นไปที่ “บริการแฟนๆ” เพียงอย่างเดียว

–
บทสรุป:
โดดเด่น – เรื่องราวเขียนได้ดี การแสดงดี และมีฉากแอ็คชั่นและดราม่าคุณภาพมากมาย เราสนุกกับซีรีส์เรื่องนี้ตั้งแต่ต้นจนจบและหยุดดูไม่ได้เลย เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีภาคต่อ

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q: ไม่เคยเล่นเกม Halo มาก่อน จะดูซีรีส์รู้เรื่องไหม? A: ดูรู้เรื่องแน่นอนครับ! ซีรีส์ถูกสร้างขึ้นมาในไทม์ไลน์ของตัวเองที่เรียกว่า “Silver Timeline” ซึ่งแยกออกจากไทม์ไลน์หลักของเกม ทำให้ผู้ชมใหม่สามารถเข้าใจเนื้อเรื่องได้โดยไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานมาก่อน

Q: ซีรีส์มีความรุนแรงมากน้อยแค่ไหน? A: มีฉากแอ็คชั่นและการต่อสู้ที่ค่อนข้างดุเดือดและสมจริง อาจมีภาพเลือดและความรุนแรงในระดับหนึ่ง เหมาะสำหรับผู้ชมที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปครับ

Q: สามารถรับชม Halo Season 1 ได้ที่ไหน? A: สามารถรับชมได้ทางบริการสตรีมมิ่ง Paramount+ ครับ

Q: จะมีซีซั่น 2 ต่อหรือไม่? A: มีครับ! Halo ได้รับการอนุมัติให้สร้างซีซั่น 2 ต่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และออกฉายไปเมื่อต้นปี 2024 ซึ่งได้รับเสียงชื่นชมว่าพัฒนาขึ้นจากซีซั่นแรกไปอีกระดับเลยทีเดียว