The Boys ก๊วนหนุ่มซ่าล่าซูเปอร์ฮีโร่ Season 2

ดูซีรี่ย์ฝรั่ง The Boys ก๊วนหนุ่มซ่าล่าซูเปอร์ฮีโร่ Season 2 ในซีซัน 2 เรื่องราวในก๊วนหนุ่มซ่าล่าซูเปอร์ฮีโร่เข้มข้นกว่าเดิม รุนแรงกว่าเดิม บุตเชอร์ ฮิวอี้และทีมยังเสียศูนย์จากความสูญเสียในซีซัน 1 พวกเขากลายเป็นผู้ร้ายหลบหนี แต่ก็ต้องต่อสู้กับเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ เมื่อวอท บริษัทผู้ควบคุมฮีโร่ ทำเงินจากความตื่นตระหนกจากคำขู่ของเหล่าวายร้ายซูปส์ ในซีซันนี้ สตอร์มฟรอนต์ ฮีโร่คนใหม่เข้ามาสั่นคลอนวอทและท้าทายโฮมแลนเดอร์ ผู้ที่อารมณ์แปรปรวนอยู่แล้ว ดูซีรี่ย์ ดูซีรี่ย์ The Boys Season 2 ก๊วนหนุ่มซ่าล่าซูเปอร์ฮีโร่  ที่ kserietv

With Butcher still missing, Hughie, Mother’s Milk, Frenchie, and Kimiko are now fugitives, and Homelander and Vought are more powerful than ever. But just as the Boys are about to leave the country, they are pulled back into the fray.น

เรื่องย่อ  ดูซีรี่ย์ The Boys Season 2  (แบบไม่สปอยล์)

ในซีซั่นนี้ กลุ่ม The Boys กลายเป็นผู้ร้ายที่ทางการต้องการตัวมากที่สุด หลังจากเหตุการณ์ในซีซั่นแรก พวกเขาต้องหลบๆ ซ่อนๆ ในขณะที่พยายามหาทางตอบโต้ Vought International และเหล่า The Seven กลับไป

ทางด้าน บิลลี่ บุตเชอร์ (Billy Butcher) ก็ต้องรับมือกับความจริงสุดช็อกเกี่ยวกับภรรยาของเขา ส่วน ฮิวอี้ (Hughie) ยังคงพยายามทำในสิ่งที่ถูกต้อง ท่ามกลางโลกที่ศีลธรรมกลับตาลปัตร ในขณะเดียวกัน โฮมแลนเดอร์ (Homelander) ก็เริ่มคลุ้มคลั่งและควบคุมไม่อยู่มากขึ้นเรื่อยๆ แถมยังมีการมาถึงของฮีโร่หญิงคนใหม่ สตอร์มฟรอนท์ (Stormfront) ที่เข้ามาปั่นป่วน The Seven และสังคมด้วยแนวคิดสุดโต่งของเธอ ศึกครั้งนี้จึงไม่ได้มีแค่การสาดพลังใส่กัน แต่ยังเป็นการต่อสู้ทางความคิดและอุดมการณ์ที่เข้มข้นยิ่งกว่าเดิม

รีวิว  เมื่อฮีโร่ไม่ใช่ผู้พิทักษ์ แต่คือมหันตภัยที่ต้องกำจัด

กลับมาอีกครั้งกับความเดือดแบบไม่มีลิมิต! หลังจากซีซั่นแรกทิ้งปมใหญ่ให้คนดูต้องอ้าปากค้าง  ก็กลับมาสานต่อเรื่องราวของเหล่าคนธรรมดาที่ลุกขึ้นสู้กับซูเปอร์ฮีโร่จอมปลอมได้อย่างสมศักดิ์ศรี สำหรับใครที่กำลังมองหารีวิวแบบเจาะลึก หรือต้องการรู้ว่าซีซั่นนี้มีความบ้าคลั่งอะไรรออยู่ บทความนี้จาก kserietv มีคำตอบให้คุณแน่นอ

เจาะลึกรีวิว: ความโหดที่มาพร้อมประเด็นเสียดสีสุดเจ็บแสบ

ยกระดับทุกอย่างขึ้นไปอีกขั้น ทั้งในแง่ของความรุนแรง, ฉากแอ็กชันสุดระทึก และที่สำคัญคือการเสียดสีสังคมที่เจ็บแสบยิ่งกว่าเดิม

• การพัฒนาตัวละครที่ลึกซึ้ง: ซีซั่นนี้พาเราไปสำรวจปมในใจของแต่ละตัวละครมากขึ้น โดยเฉพาะ บุตเชอร์ และ โฮมแลนเดอร์ ที่เผยให้เห็นด้านที่เปราะบางและความเป็นมนุษย์ (หรือความไม่เป็นมนุษย์) ออกมาได้อย่างน่าทึ่ง
• ตัวละครใหม่ที่ขโมยซีน: สตอร์มฟรอนท์ คือส่วนผสมที่ลงตัวของความร้ายกาจและเสน่ห์ เธอไม่ได้เป็นแค่ตัวร้ายดาษๆ แต่เป็นภาพสะท้อนของแนวคิดสุดโต่งที่ใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือได้อย่างน่าขนลุก
• ประเด็นสังคมที่หนักหน่วง: ซีรีส์วิพากษ์วิจารณ์ประเด็นต่างๆ อย่างไม่เกรงใจ ทั้งเรื่องการเมือง, การเหยียดเชื้อชาติ, วัฒนธรรมคลั่งเซเลบริตี้ และอำนาจของสื่อที่สามารถปั้นขาวให้เป็นดำได้อย่างง่ายดาย
• ฉาก “อะไรวะเนี่ย!?” ที่น่าจดจำ: ถ้าคุณคิดว่าซีซั่นแรกมีฉากโหดๆ เซอร์ไพรส์ๆ เยอะแล้ว ซีซั่นนี้พร้อมจะทำให้คุณอ้าปากค้างยิ่งกว่าเดิม มีหลายฉากที่ทั้งช็อกและน่าจดจำไปอีกนาน

คะแนนจากนักวิจารณ์:

• IMDb: 8.7/10
• Rotten Tomatoes: 97% (Tomatometer)

คำเตือน: เนื้อหาส่วนนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญ (สปอยล์)

หากคุณยังไม่ได้ดู ขอแนะนำให้ข้ามส่วนนี้ไปก่อน แต่ถ้าดูแล้วหรือไม่อยากโดนสปอยล์ มาคุยกันต่อได้เลย!

! จุดที่พีคที่สุดของซีซั่นนี้หนีไม่พ้นการเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของสตอร์มฟรอนท์ ว่าเธอคือ Liberty ฮีโร่ในยุคนาซีที่มีชีวิตอยู่มานานและมีความเชื่อเรื่องความบริสุทธิ์ของชาติพันธุ์อย่างสุดโต่ง รวมถึงฉาก “หัวระเบิด” ปริศนาที่สร้างความตึงเครียดไปตลอดทั้งซีซั่น และบทสรุปสุดสะเทือนใจของเบคก้า ภรรยาของบุตเชอร์ ที่จบชีวิตลงเพราะพลังของลูกชายตัวเอง ถือเป็นการปูทางไปสู่ซีซั่น 3 ที่น่าติดตามแบบสุดๆ

ทีมนักแสดงและผู้สร้าง

ความยอดเยี่ยมของซีรีส์จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่มีทีมงานเบื้องหลังและนักแสดงคุณภาพ

• ผู้สร้าง: Eric Kripke
• นักแสดงนำ:
  • Karl Urban รับบท บิลลี่ บุตเชอร์ (ดูประวัติและผลงานของ Karl Urban ได้ที่นี่ – ลิงค์ภายในเว็บ kserietv.co)
  • Jack Quaid รับบท ฮิวอี้ แคมป์เบล
  • Antony Starr รับบท โฮมแลนเดอร์ (ดูประวัติและผลงานของ Antony Starr ได้ที่นี่ – ลิงค์ภายในเว็บ kserietv.co)
  • Erin Moriarty รับบท แอนนี่ มกราคม / สตาร์ไลท์
  • Aya Cash รับบท คลาร่า ไรซิงเกอร์ / สตอร์มฟรอนท์

เทพเจ้าคอนเน็ตโต้

(มีสปอยบ้างเล็กน้อยแต่ไม่สปอยตอนท้ายๆ)
แต่คอมเม้นเราปล่อยสปอยได้เต็มที่เลยนะ ดูแล้วมาคุยกัน หรือใครที่ยังไม่ได้ดูข้ามๆไปก่อนก็ได้
.
ระหว่างดูก็จะมีแอบรู้สึกว่ามันยืดไปไหม ไม่เห็นเข้าเรื่องซักที แต่พอมัน wrap up ตอนท้ายๆเราเลยเข้าใจว่าทุกอย่างมันปูมาหมดแล้ว กลายเป็นชอบเลยแหละ แม่งดีมากๆเลย
.
เราสงสัยว่าเขาขุดเอา Antony Starr มาได้ยังไง เออเข้าใจว่าพี่แกเป็นพระเอก Banshee ที่ๆคูลๆ แต่ไม่คิดว่าเขาจะสามารถถ่ายทอดความซับซ้อนทางอารมณ์ของโฮมแลนเดอร์ได้ขนาดนี้
.
คือซีซั่นก่อนก็ดีมากๆระดับนึง ตรงที่สร้างให้โฮมแลนด์เดอร์เป็นตัวละครที่น่าหวาดหวั่นกลัวที่จะอยู่ใกล้ด้วย เพราะไม่รู้แม่งจะปรี๊ดแตกสาดเลเซอร์ใส่เราเมื่อไหร่ แต่ก็ยังมีความบอบบางทางอารมณ์และขาดความอบอุ่น
.
แต่ซีซั่นนี้มันขยับไปอีกสเต๊ป คือโฮมแลนเดอร์มันไม่ใช่อสุรกายหรือเอเลี่ยนจากต่างดาว มันคือ(ยอด)มนุษย์ที่ยังคงต้องการอ้อมกอด ต้องการคนสรรเสริญ และในเมื่อมันมีโอกาสที่ได้เป็นพ่อคนเราว่ามันยิ่งหาทางที่ดีที่สุดเพื่อลูก (แต่ดีที่สุดของมันก็ไม่ใช่ทางที่ดีเสมอไป แต่ก็อย่างที่บอกมันไม่ใช่ปีศาจขนาดนั้น มันแค่คนเหี้ยมากๆคนนึง)
.
ในพาร์ทอื่นๆก็ยังคงทำได้สนุก หรือสตรอมฟรอนท์ที่เป็นตัวละครใหม่ที่เจ๋งใช้ได้เลย เป็นตัวละครที่เอามาใช้จิกได้อย่างแสบสันต์ ยิ่งประโยคนึงตอนท้ายๆซีซั่นนี่คือสรุปใจความหลักของตัวละครนี้ได้ในประโยคเดียวเลย
หรือพวกตัวละครอื่นอย่าง บุชเชอร์ก็เจ๋ง เอ็มเอ็มก็เจ๋ง เฟรนชี่กับคิมิโกะก็อรั๊ยเหลือเกิน ฮิวอี้กับสตาร์ไลท์ก็ดีคงเส้นคงวา ซีซั่นนี้ตอนที่ชอบที่สุดน่าจะเป็นตอนที่บุกโรงพยาบาล

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q:  ดูได้ที่ไหน? A: คุณสามารถรับชม The Boys ทั้งซีซั่น 1 และ 2 ได้ทาง Prime Video เท่านั้นค่ะ

Q: ซีซั่น 2 โหดกว่าซีซั่นแรกไหม? A: เรียกได้ว่ายกระดับความโหดและฉากรุนแรงขึ้นไปอีกขั้นค่ะ ใครที่ไม่ชอบแนวนี้อาจต้องทำใจเล็กน้อย แต่ถ้าคุณชอบความดิบเถื่อน รับรองว่าไม่ผิดหวัง

Q: จำเป็นต้องดูซีซั่น 1 ก่อนไหม? A: จำเป็นอย่างยิ่งค่ะ! เนื้อเรื่องของซีซั่น 2 ต่อเนื่องจากซีซั่นแรกโดยตรง การดูซีซั่น 1 ก่อนจะทำให้คุณเข้าใจความสัมพันธ์ของตัวละครและปมขัดแย้งต่างๆ ได้อย่างเต็มที่

Q: จะมี The Boys Season 3 หรือไม่? A: มีแน่นอนค่ะ และเนื้อเรื่องก็จะยิ่งเข้มข้นขึ้นไปอีก รอติดตามข่าวสารอัปเดตได้ที่ kserietv.co นะคะ!