เรื่องย่อ : The Light in Your Eyes (2019) ย้อนเวลารัก ดูซีรี่ย์ออนไลน์ พากย์ไทย ซับไทย ซีรี่ย์2023 เว็บไซต์ดูซีรี่ย์คุณภาพคมชัด 1080p ซีรี่ย์อัพเดทใหม่ ไม่กระตุก ซีรี่ย์เกาหลี ซีรี่ย์จีน ซีรี่ย์ญีปุ่น วาไรตี้เกาหลีญีปุ่น ซีรี่ย์ไทย อัพเดทก่อนใคร ดูซีรี่ย์ไม่มีโฆษณากวนใจ BY kseriestv เคซีรี่ย์

ดูซีรี่ย์เกาหลี The Light in Your Eyes (2019) ย้อนเวลารัก “Dazzling” เป็นซีรีส์แนวแฟนตาซีที่เล่าเรื่องราวของ คิมฮเยจา (รับบทโดย ฮันจีมิน/คิมฮเยจา) หญิงสาวที่มีความสามารถในการเดินทางข้ามเวลาและในวันหนึ่งเธอกลับหลงทางอยู่ในห้วงเวลา เธอจึงยังไม่ทันได้ใช้ชีวิตในช่วงเวลาที่ควรจะมีและกลายเป็นสาวแก่ในวัย 70 กว่าปีโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ในขณะที่ อีจุนฮา (รับบทโดย นัมจูฮยอก) ชายหนุ่มผู้เสียเวลาวันๆโดยเปล่าประโยชน์จากการไม่ทำอะไรเลย เรื่องราวแฟนตาซี-คอมเมดี้-โรแมนติกที่จะติดตามการดำเนินชีวิตของพระเอกนางเอก ที่ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะใช้เวลาในช่วงเดียวกันแต่นั่นก็ทำให้รู้สึกได้ว่าทั้งคู่ต่างใช้เวลาในโลกที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ดูซีรี่ย์ The Light in Your Eyes (2019) ย้อนเวลารัก ที่ kserietv
In order to save her father from an accident, 26 year old Kim Hye Ja uses a mysterious watch to rewind time in an attempt to prevent the accident, but fails. Desperate, she ends up rewinding the watch too many times and accidentally ages herself, becoming a 70 year old.
Native Title: 눈이 부시게
Also Known As: Nooni Booshige , Eyes Are Dazzling , Dazzling , Radiant , Nuni busige , Nuni busigye
ซีรีส์เล่าเรื่องราวของ คิมฮเยจา (ฮันจีมิน) หญิงสาวผู้มองโลกในแง่ดีและมีความฝันอยากเป็นผู้ประกาศข่าว เธอได้ค้นพบนาฬิกาเรือนหนึ่งที่ทำให้เธอย้อนเวลาได้ แต่ทุกครั้งที่ใช้มัน เธอจะต้องจ่ายด้วย “เวลาในชีวิต” ของตัวเองที่แก่ขึ้นอย่างรวดเร็ว
วันหนึ่ง พ่อของเธอประสบอุบัติเหตุสาหัส ฮเยจาจึงตัดสินใจหมุนนาฬิกาย้อนกลับไปนับครั้งไม่ถ้วนเพื่อช่วยชีวิตพ่อ แต่ผลลัพธ์ที่ตามมาคือ เธอกลายเป็นหญิงชราวัย 70 ปีในชั่วข้ามคืน (รับบทโดยนักแสดงอาวุโส คิมฮเยจา) ในขณะเดียวกัน เธอก็ได้พบกับ อีจุนฮา (นัมจูฮยอก) ชายหนุ่มผู้เพียบพร้อมแต่กลับใช้ชีวิตอย่างสิ้นหวัง เรื่องราวของคนสองคน คนหนึ่งสูญเสียวัยสาวไปในพริบตา และอีกคนกำลังทิ้งขว้างช่วงเวลาหนุ่มสาวของตัวเองไปอย่างน่าเสียดาย จึงได้เริ่มต้นขึ้น
นักแสดงและทีมงานคุณภาพ
ความสำเร็จของซีรีส์เรื่องนี้เกิดขึ้นจากทีมนักแสดงและผู้สร้างที่ยอดเยี่ยม
เคยตั้งคำถามกับตัวเองไหมว่า “ถ้าเราย้อนเวลากลับไปได้ จะกลับไปแก้ไขอะไร?” ซีรีส์เกาหลีหลายเรื่องนำเสนอพล็อตการเดินทางข้ามเวลาที่น่าตื่นเต้น แต่สำหรับ (눈이 부시게) หรือในชื่อไทย ประกายจ้าในตาเธอ คือการนำเสนอที่แตกต่างและลึกซึ้งกว่านั้น วันนี้ kserietv จะพาทุกคนไปสัมผัสกับหนึ่งในซีรีส์ดราม่าครอบครัวที่ดีที่สุด ที่จะทำให้คุณหัวเราะ ร้องไห้ และหันกลับมามอง “เวลา” ของตัวเองด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป
รีวิวและมุมมองที่น่าสนใจ: มากกว่าแค่ซีรีส์แฟนตาซี
คำเตือน: เนื้อหาส่วนนี้อาจเปิดเผยจุดหักมุมสำคัญของเรื่อง
สิ่งที่ทำให้ แตกต่างจากซีรีส์ข้ามเวลาเรื่องอื่น คือ “บทสรุป” ที่คาดไม่ถึง ซีรีส์ไม่ได้เป็นเรื่องราวแฟนตาซีจ๋า แต่เป็นการเล่าเรื่องผ่านมุมมองของ ผู้ป่วยอัลไซเมอร์
เรื่องราวการย้อนเวลาทั้งหมดคือภาพความทรงจำที่สับสนของ “คิมฮเยจา” ในวัยชราที่กำลังต่อสู้กับโรคความจำเสื่อม ภาพของฮเยจาวัยสาว (ฮันจีมิน) และจุนฮา (นัมจูฮยอก) คือภาพอดีตอันงดงามของเธอกับสามี ส่วนเรื่องราวในปัจจุบันที่เธออยู่ในร่างคนชรา คือความจริงที่เธอต้องเผชิญ
ซีรีส์เรื่องนี้พาเราไปสำรวจความหมายของชีวิต ความรัก ความผูกพันในครอบครัว และความเจ็บปวดของการสูญเสียความทรงจำได้อย่างลึกซึ้งกินใจ มันสอนให้เราเห็นคุณค่าของทุกช่วงเวลาธรรมดาๆ ที่อาจกลายเป็นความทรงจำที่ล้ำค่าที่สุดในบั้นปลาย
คะแนนรีวิวจากต่างประเทศ
Rona Harris
⭐ ⭐ ⭐ ⭐ ⭐
ก่อนที่ฉันจะเริ่มดูซีรีส์เกาหลี ฉันมีอาการวิตกกังวลจนแน่นหน้าอก เมื่อปีที่แล้ว ตอนที่โควิดระบาดไปทั่วโลก ฉันคิดว่าฉันคงผ่านเรื่องนี้ไปไม่ได้ เพราะฉันวิตกกังวลได้ง่ายมาก หลังจากผ่านไปสองสามเดือน ฉันเริ่มดูซีรีส์เพื่อดูว่าจะช่วยให้ฉันสงบลงได้บ้างหรือไม่ และบางเรื่องก็ช่วยได้ แต่บางเรื่องก็ช่วยปลุกฉันให้ตื่นขึ้น จนกระทั่งวันหนึ่ง ฉันได้ดู “Love Alarm” และไม่เคยดูย้อนหลังอีกเลย ฉันผิดหวังกับ “Love Alarm” เพราะตอนนั้นมีแค่ 8 ตอน แต่มีคนบอกฉันเกี่ยวกับ “The Heirs” และฉันก็ตกหลุมรักอีมินโฮทันที และเริ่มดูทุกอย่างเพื่อเขา ฉันประทับใจมากกับวิธีที่ชาวเกาหลีเล่าเรื่องราวของพวกเขา และหลงใหลในอารมณ์ที่นักแสดงชายและหญิงสามารถถ่ายทอดออกมาบนหน้าจอได้ การดูซีรีส์ทั้งหมดนี้ทำให้ฉันรู้สึกสงบและมีความสุข ฉันดูซีรีส์อย่าง “I’ll go to you when the weather is nice”, “A piece of your mind” และ “Moment at eighteen” และคิดว่าว้าว ซีรีส์แบบนั้นทำให้ฉันนึกถึงสมัยเด็กๆ และฉันรู้ว่าการมีชีวิตอยู่ในแต่ละช่วงเวลานั้นสำคัญแค่ไหน และซีรีส์เรื่องนี้ก็เป็นอีกเครื่องเตือนใจที่สวยงามเกี่ยวกับเรื่องนั้น
ตอนแรก ฉันค่อนข้างลังเลเพราะฉันเกลียดการดูซีรีส์เศร้าๆ ที่เป็นแนวเศร้าๆ มันสมจริงมากจนคุณกลัว แต่ฉันต้องยกนิ้วให้นักเขียนเหล่านี้ เรื่องราวที่เขียนออกมาได้ดีมาก ซึ่งทำให้คนในสังคมตระหนักถึงสิ่งต่างๆ มากมายจากมุมมองของผู้สูงอายุ พวกเขาทำได้ดีมากจนฉันร้องไห้ออกมา และหัวเราะออกมากลางน้ำตา นักเขียนไม่ได้ฝังละครไว้ด้วยความเศร้า เพราะความตลกจะมาแทนที่ได้ทันเวลา นักแสดงก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน คิมฮเยจาก็แสดงได้ยอดเยี่ยมมากกับบทบาทของเธอ ฉันต้องปรบมือให้เธอจริงๆ ฉันเคยดูฮันจีมินในเรื่อง “One Spring Night” และคิดว่าเธอสุดยอดมาก และเธอก็แสดงได้ยอดเยี่ยมอีกครั้ง และคงไม่มีคำไหนจะชมนัมจูฮยอกได้มากไปกว่านี้แล้ว ฉันรักเขามาก นักแสดงเกาหลีเก่งมาก ฉันมีนักแสดงชายโปรด 9 คนที่ฉันพยายามหาผลงานละครของพวกเขาอยู่เสมอ และจูฮยอกก็เป็นหนึ่งในนั้น เขาพาฉันขึ้นรถไฟเหาะทางอารมณ์จริงๆ
ฉันไม่เคยรู้มาก่อนว่าจะได้ดูละครเรื่องนี้และสนุกกับมันได้ แต่ฉันก็ทำได้ และฉันหวังว่าคนอื่นๆ จะได้ดูและชื่นชมผลงานศิลปะเหล่านี้ อัจฉริยะ มันคุ้มค่าที่จะดูเพราะมันจะช่วยเพิ่มพลังใจให้คุณ และคุณจะซาบซึ้งและขอบคุณมากขึ้นแม้กระทั่งกับสิ่งที่ง่ายที่สุดในชีวิต 😊


คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q1: ซีรีส์ The Light in Your Eyes เศร้ามากไหม? A: เป็นซีรีส์ที่เรียกน้ำตาได้อย่างแน่นอนค่ะ แต่ไม่ใช่ความเศร้าที่หดหู่ แต่เป็นความซาบซึ้งและอบอุ่นหัวใจที่ทำให้เราเข้าใจชีวิตมากขึ้น เตรียมทิชชู่ไว้ข้างตัวได้เลยค่ะ
Q2: สรุปแล้วซีรีส์เรื่องนี้เป็นแนวไหนกันแน่? A: เริ่มต้นเหมือนเป็นแนวแฟนตาซี-โรแมนติก แต่แก่นแท้ของเรื่องคือ ดราม่าชีวิตและครอบครัว ที่มีศูนย์กลางอยู่ที่เรื่องความทรงจำและโรคอัลไซเมอร์ค่ะ
Q3: สามารถรับชม The Light in Your Eyes ได้ที่ไหน? A: ปัจจุบันสามารถรับชมได้ผ่านบริการสตรีมมิ่งอย่าง Netflix และ Viu (โปรดตรวจสอบลิขสิทธิ์ในแต่ละช่วงเวลาอีกครั้ง) ซึ่งเป็นช่องทางที่สะดวกสำหรับแฟนๆ kserie ค่ะ
Q4: ทำไมถึงไม่ควรพลาดซีรีส์เรื่องนี้? A: เพราะนี่คือซีรีส์ที่จะเปลี่ยนมุมมองการใช้ชีวิตของคุณไปตลอดกาล ด้วยการแสดงที่ไร้ที่ติ บทที่เขียนมาอย่างชาญฉลาด และข้อความที่ทรงพลัง ทำให้ The Light in Your Eyes เป็นมากกว่าความบันเทิง แต่เป็นประสบการณ์ที่ควรค่าแก่การรับชมค่ะ