The Lord of the Rings The Rings of Power (2024) แหวนแห่งอำนาจ Season 2

ดูซีรี่ย์ฝรั่ง The Lord of the Rings The Rings of Power (2024) แหวนแห่งอำนาจ Season 2 เซารอนกลับมาแล้ว หลังจากโดนกาลาเดรียลขับไล่ไป บัดนี้ดาร์กลอร์ดต้องใช้ความเจ้าเล่ห์เพื่อสร้างความแข็งแกร่งขึ้นใหม่ และสร้างแหวนแห่งอำนาจในตำนานขึ้นมา โดยข่มขู่ว่าจะเป็นการบังคับทุกผู้คนในมิดเดิลเอิร์ธให้ทำตามเจตนารมณ์อันชั่วร้าย ซีซัน 2 นำตัวละครที่ผู้คนรักที่สุดและเปราะบางที่สุดเข้าสู่กระแสแห่งความมืดมิดที่ก่อตัวเพิ่มขึ้น ท้าทายให้แต่ละคนค้นหาตำแหน่งแห่งที่ของตนในโลกที่จวนเจียนจะเกิดหายนะ  ดูซีรี่ย์ The Lord of the Rings The Rings of Power Season 2 (2024) แหวนแห่งอำนาจ ที่ kserietv

ดูซีรี่ย์ The Lord of the Rings The Rings of Power Season 2 (2024) ซีซั่น 2: การกลับมาของเงามืดและการสร้างแหวนแห่งอำนาจ

การรอคอยสิ้นสุดลงแล้วสำหรับมหากาพย์ซีรีส์ฟอร์มยักษ์จาก Prime Video, The Lord of the Rings: The Rings of Power ซีซั่น 2 ที่กลับมาสานต่อเรื่องราวแห่งมิดเดิลเอิร์ธในยุคที่สองอย่างยิ่งใหญ่และเข้มข้นกว่าเดิม ออกอากาศตอนแรกในวันที่ 29 สิงหาคม 2024 ซีซั่นนี้ได้พาผู้ชมดำดิ่งสู่แผนการอันแยบยลของเซารอน และการต่อสู้ของเหล่าตัวละครที่ต้องเผชิญหน้ากับความมืดที่คืบคลานเข้ามา

สำหรับแฟนๆ ซีรีส์ที่ติดตามเรื่องราวอย่างใกล้ชิดบน kserietv.co บทความนี้จะเจาะลึกทุกแง่มุมของซีซั่น 2 ทั้งรีวิว สปอยล์เนื้อเรื่องสำคัญ พร้อมข้อมูลนักแสดงและทีมงานผู้สร้าง เพื่อให้คุณไม่พลาดทุกรายละเอียดสำคัญ

สรุปเนื้อเรื่องและสปอยล์สำคัญ The Rings of Power ซีซั่น 2

ซีซั่นที่สองเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่ตัวตนของ เซารอน (Charlie Vickers) ในคราบของฮัลแบรนด์ได้ถูกเปิดเผย เขาได้หลบหนีไปยังมอร์ดอร์เพื่อรวบรวมพลังและเริ่มต้นแผนการที่แท้จริง ในขณะที่ กาลาเดรียล (Morfydd Clark) ต้องแบกรับความรู้สึกผิดที่ถูกหลอกใช้และพยายามเตือนเหล่าเอลฟ์ถึงภัยคุกคามที่กำลังจะมาถึง

หัวใจหลักของซีซั่นนี้คือ การสร้างแหวนแห่งอำนาจวงอื่นๆ หลังจากที่แหวนเอลฟ์ทั้งสามวงถูกสร้างขึ้นในซีซั่นแรก เซารอนได้ใช้ความสามารถในการแปลงกายและเล่ห์เหลี่ยมของเขาเพื่อหลอกลวง เคเลบริมบอร์ (Charles Edwards) ยอดช่างตีเหล็กแห่งเอเรกิออน ให้สร้างแหวนอีกสิบหกวงสำหรับเผ่าพันธุ์คนแคระและมนุษย์ โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการสร้าง “เอกธำมรงค์” หรือ The One Ring เพื่อควบคุมแหวนวงอื่นๆ ทั้งหมด

ประเด็นสำคัญและเหตุการณ์ที่น่าจับตามองในซีซั่น 2:

• การล่มสลายของเอเรกิออน: เมืองหลวงของเหล่าช่างตีเหล็กเอลฟ์ต้องเผชิญกับการโจมตีครั้งใหญ่จากกองทัพออร์คของเซารอน นำไปสู่ฉากสงครามอันน่าตื่นตาตื่นใจและน่าเศร้าสลด
• บทบาทของคนแคระแห่งคาซัด-ดูม: เจ้าชายดูรินที่ 4 (Owain Arthur) และ เจ้าหญิงดีซา (Sophia Nomvete) ต้องเผชิญกับการตัดสินใจครั้งสำคัญเมื่อพวกเขาค้นพบมิทริลมากขึ้น แต่ก็ต้องเผชิญกับอันตรายที่ซ่อนอยู่เบื้องลึกใต้ขุนเขา รวมถึงความโลภที่เกิดจากอิทธิพลของแหวน
• ชะตากรรมของนูเมนอร์: อาณาจักรมมนุษย์อันยิ่งใหญ่เริ่มแตกแยกออกเป็นสองฝ่าย จากการยุยงของเซารอนที่แฝงตัวเข้าไป ทำให้เกิดความขัดแย้งภายในที่อาจนำไปสู่การล่มสลายในอนาคต
• การเดินทางของคนพเนจร (The Stranger): ชายลึกลับที่คาดว่าจะเป็นหนึ่งในอิสทาริ (พ่อมด) ยังคงเดินทางไปกับเหล่าฮาร์ฟุต เพื่อค้นหาตัวตนและพลังของเขา ซึ่งในซีซั่นนี้เขาได้พบกับตัวละครสำคัญอย่าง ทอม บอมบาดิล
• อาดาร์ (Sam Hazeldine): ผู้นำแห่งออร์คที่เคยเป็นศัตรูกับเซารอน ต้องเผชิญหน้ากับการกลับมาของนายเก่า และชะตากรรมของเหล่าออร์คที่ต้องเลือกว่าจะติดตามใคร

รีวิวและเสียงตอบรับจากนักวิจารณ์

The Rings of Power ซีซั่น 2 ได้รับเสียงวิจารณ์ที่ค่อนข้างดีขึ้นกว่าซีซั่นแรก นักวิจารณ์ส่วนใหญ่ชื่นชมในด้านโปรดักชันที่ยังคงความยิ่งใหญ่และงดงามตระการตา การดำเนินเรื่องที่กระชับและมีทิศทางชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะการมุ่งเน้นไปที่แผนการของเซารอนซึ่งเป็นแกนหลักของเรื่อง

• IMDb: คะแนนเฉลี่ยจากผู้ชมอยู่ที่ประมาณ 6.9 – 7.3/10 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้ชมทั่วไปมีความเห็นที่หลากหลาย แต่โดยรวมยังคงสนุกและติดตามเรื่องราวต่อได้
• Rotten Tomatoes: ได้รับคะแนนจากนักวิจารณ์สูงถึง 85-92% โดยชื่นชมว่าซีซั่นนี้ “ยิ่งใหญ่และมืดมนกว่าเดิม” และมีการพัฒนาตัวละครที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม คะแนนจากฝั่งผู้ชมทั่วไปยังคงมีความแตกแยก ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากประเด็นการตีความที่แตกต่างจากต้นฉบับของ J.R.R. Tolkien

สื่อไทยหลายสำนักให้ความเห็นว่า ซีซั่น 2 มีความ “เข้าที่เข้าทาง” มากขึ้น การเล่าเรื่องสนุกและน่าติดตามตั้งแต่ตอนแรกๆ แม้ว่าอาจจะต้องทำความคุ้นเคยกับตัวละครและเส้นเรื่องที่หลากหลายจากซีซั่นแรกมาก่อนก็ตาม

ทำความรู้จักนักแสดงและทีมผู้สร้าง

ความสำเร็จของซีรีส์ฟอร์มยักษ์นี้เกิดขึ้นได้จากทีมงานเบื้องหลังและนักแสดงมากความสามารถ:

• ผู้สร้างและโชว์รันเนอร์: JD Payne และ Patrick McKay ยังคงรับหน้าที่เป็นหัวเรือใหญ่ในการกุมทิศทางของซีรีส์
• ผู้กำกับ: ซีซั่นนี้ได้ผู้กำกับหญิงมากฝีมืออย่าง Charlotte Brändström (จาก The Witcher) และ Sanaa Hamri (จาก The Wheel of Time) มาร่วมทีมกำกับ ทำให้ได้มุมมองที่หลากหลายและน่าสนใจ
• นักแสดงหลัก:
  • Morfydd Clark ในบท กาลาเดรียล
  • Charlie Vickers ในบท เซารอน
  • Robert Aramayo ในบท เอลรอนด์
  • Owain Arthur ในบท เจ้าชายดูรินที่ 4
  • Charles Edwards ในบท เคเลบริมบอร์
  • Sam Hazeldine ผู้มารับบท อาดาร์ แทนที่ Joseph Mawle ในซีซั่นนี้

ชอบเล่า 

โพสต์นี้แอดอยากชวนคนที่ดู Rings of Power ทั้ง 2 ซีซั่น จบแล้วมาคุย เม้นบอกกันหน่อยว่ารู้สึก หรือคิดเห็นกันอย่างไร มาคอมเม้นเพื่อแลกเปลี่ยนกันดู เพราะแอดหมดพลังไปกับซีรีส์เรื่องนี้แล้วปัญหา Woke มันไม่ใช่ประเด็น ถ้าซีรีส์มันสนุก คนดูก็พร้อมมองข้ามคงเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว(มั้งนะ) กับหนังหรือซีรีส์ในยุคปัจจุบันที่เพิ่มความหลากหลายหรือ Woke เอาจริงมันก็เป็นสิ่งที่ดีและก็ไม่ได้มีอะไรที่น่าติดใจ แต่มันควรอยู่ในความพอดี และคำนึงถึงความสมควรหรือไม่ ยิ่งเป็นซีรีส์ที่มีขนาดยาวจำนวนหลายตอน แล้วถ้ามันยิ่งสร้างมาจากนิยายหรือวรรณกรรมอีกด้วยแล้ว ก็ไม่ควรที่จะไปเปลี่ยนดัดแปลงอะไรที่มันเกินงาม เพราะถ้าทีมผู้สร้างดื้อดึง หรือทำอะไรที่มันไม่เคารพต้นฉบับนั้นหมายถึงผู้สร้างได้แสดงถึงความรังเกียจไม่เพียงแต่เหล่าตัวละครในนิยายนั้นๆ แต่มันยังแสดงถึงคุณสาปส่งความตั้งใจของผู้แต่งเข้าไปด้วย

ใน Rings of Power ซีซั่น 2 เอาจริงแอดไม่อยากต้องมาพูดถึงความ Woke ของซีรีส์เรื่องนี้อีกแล้วเพราะส่วนตัวแอดก็เบื่อไม่ต่างจากคนดู แต่ด้วยความที่วรรณกรรมของ “โทลคีน” นั้นบอกถึงเพศ สีผิว ชาติพันธุ์ตัวละครไว้ชัดเจน มันก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึง อยากถาม 2 Showrunners ของซีรีส์เรื่องนี้นะว่า เขาทั้งคู่เกลียดอะไรวรรณกรรมเรื่องนี้ เค้าเกลียดอะไรตัวละครเรื่องนี้ หรือแม้กระทั่งเค้าเกลียดอะไรผู้แต่ง หรือป่าว? เพราะซีรีส์นี้มันคือความหายนะที่สุดตั้งแต่เคยมีการสร้างหนังหรือซีรีส์จากนิยายขึ้นมา คุณทั้ง 2 Payne & Patrick Mckay ต้องการอะไรกันถึงได้ทำสิ่งที่มันทุเรสให้แฟนๆ นิยายเรื่องนี้ได้เห็น

ขอพูดถึงตอนที่ 7 ของซีซั่นนี้เลยแล้วกัน เพราะมันคือตอนที่จะเป็นซีเคว้นใหญ่ของซีซั่นที่ทาง Showrunners ทั้ง 2 ได้มีการขายไว้ก่อนที่จะฉาย โดยบอกว่าศึกที่ “เอเรกิออน” จะเป็นศึกที่ทำให้คนดูได้ลืมศึกที่ป้อมเฮล์มดีฟ ในภาค The Two Towers ไปเลย เอาจริงเลยนะแม่งเหม็นขี้ฟัน สุดๆ ต้องบอกว่าในตอนที่ 7 นี้คือความระยำตำบอนของซีซั่นนี้เลยด้วยซ้ำ ถ้าบอกว่ามันคือซีรีส์ Parody ก็ยังเชื่อเลย ตลอดทั้งตอนมันมีแต่ความอิหยังวะ!! เต็มไปหมด ฉากสงครามก็ไม่ได้

มีอะไรที่ดูแล้วรู้สึกน่าตื่นเต้นตรงไหน และยิ่งมาเจอซีน Kiss me!! เห้ยยยยย เอลรอนด์จูบกาลาเดรียลวะมึง สารภาพเลยคือแอดช๊อก!! กับฉากนี้มากคือนี้มันเชี้ยยยยยอะไรวะ!! ตามในนิยายกาลาเดรียลมีศักดิ์เป็นแม่ยายมึงเลยนะเห้ยยย นี้กรูไม่ได้ดู Game of thrones มึงไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้ไหมอะ (ซีนที่แนะนำว่าต้องดูให้ได้คือซีนทัพม้าของเอลฟ์เข้าโจมตีพวกออค และซีนเอลฟ์ยิงธนูระเบิดย้ำว่าต้องดูให้ได้ แล้วคุณจะพบกับอะไรที่มันเรียกเสียงฮือฮาพร้อมความไร้สาระสิ้นดี)

แล้วซีรีส์นี้นะต้องบอกว่าถ้าใครเป็นแฟนภาพยนตร์ของ ปีเตอร์ แจ็กสัน คุณจะเอ๊ะใจ หรือคุ้นๆกับหลายฉากที่พูดตรงๆ เลยว่า Copy นั้นแหละ คือต้องการอะไร? คือจะคารวะฉากในหนังหรือยังไง คือถ้าเส้นเรื่องมันดี บทมันแข็งแรง คุณจะทำอะไรตามหนังมันไม่มีใครว่า แต่นี้พอซีรีส์มันห่วย บทตัวละครที่ห่วย มันก็ยิ่งดูเสล่อเข้าไปอีกเป็น 2 เท่า

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) ดูซีรี่ย์ The Lord of the Rings The Rings of Power Season 2

Q: จำเป็นต้องดู The Lord of the Rings ฉบับภาพยนตร์ของ Peter Jackson ก่อนดูซีรีส์นี้หรือไม่? A: ไม่จำเป็นครับ ซีรีส์ The Rings of Power เล่าเรื่องราวในยุคที่สองซึ่งเกิดขึ้นหลายพันปีก่อนเหตุการณ์ในภาพยนตร์ แต่ถ้าหากเคยรับชมมาก่อน จะช่วยให้เข้าใจบริบทและความเชื่อมโยงของตัวละครและสถานที่ต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้นครับ

Q: ซีรีส์นี้สร้างตามหนังสือของ Tolkien เป๊ะๆ เลยหรือเปล่า? A: ซีรีส์นี้อิงจากภาคผนวก (Appendices) ของ The Lord of the Rings เป็นหลัก ซึ่งเป็นเพียงโครงเรื่องกว้างๆ ผู้สร้างจึงต้องขยายความและเพิ่มเติมรายละเอียดตัวละครและเหตุการณ์ต่างๆ เข้าไปเพื่อให้เป็นเรื่องราวที่สมบูรณ์ ดังนั้นจะมีทั้งส่วนที่ตรงตามต้นฉบับและส่วนที่ดัดแปลงเพื่ออรรถรสในการรับชมครับ

Q: จะมี The Rings of Power ซีซั่น 3 ต่อหรือไม่? A: ได้รับการยืนยันแล้วว่าซีรีส์จะมีซีซั่น 3 อย่างแน่นอน และทีมผู้สร้างได้วางแผนเรื่องราวไว้ทั้งหมด 5 ซีซั่น เพื่อปิดตำนานแห่งแหวนในยุคที่สองอย่างสมบูรณ์