ดูซีรี่ย์ฝรั่ง The Witcher เดอะ วิทเชอร์ นักล่าจอมอสูร Season 1 เกรอลท์แห่งริเวีย มนุษย์กลายพันธุ์ผู้กลายเป็นนักล่าอสูรรับจ้างออกผจญภัยไปบนเส้นทางแห่งโชคชะตาในโลกที่มนุษย์อาจโหดร้ายยิ่งกว่าอสูร
Geralt of Rivia, a solitary monster hunter, struggles to find his place in a world where people often prove more wicked than beasts.3 ดูซีรี่ย์ The Witcher เดอะ วิทเชอร์ นักล่าจอมอสูร Season 1 ที่ kserietv
ดูซีรี่ย์ The Witcher Season 1: โชคชะตา ดาบ และเวทมนตร์
คือจุดเริ่มต้นของมหากาพย์การผจญภัยในโลกที่เต็มไปด้วยอสูรร้าย, เวทมนตร์อันทรงพลัง และการเมืองที่ซับซ้อน ซีรีส์เรื่องนี้ดัดแปลงจากหนังสือขายดีของ Andrzej Sapkowski ซึ่งถูกนำไปสร้างเป็นเกมที่โด่งดังไปทั่วโลกมาแล้ว
สำหรับใครที่กำลังมองหาซีรีส์แฟนตาซีที่ “ดาร์ก” และ “สมจริง” (ในแง่ของความรุนแรง) kserietv ขอบอกเลยว่าเรื่องนี้ตอบโจทย์ แต่เสน่ห์ของมันไม่ได้มีแค่ฉากแอ็กชันเท่านั้นครับ
🚀 เรื่องย่อ The Witcher Season 1 (แบบไม่สปอยล์)
ซีซั่น 1 เล่าเรื่องราวของสามตัวละครหลักที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน แต่โชคชะตาก็กำลังนำพาพวกเขาทั้งสามมาบรรจบกัน:
เกรอลท์ แห่ง ริเวีย (Geralt of Rivia): นักล่าอสูรกลายพันธุ์ (Witcher) ผู้โดดเดี่ยว เขาเดินทางไปทั่วทวีปเพื่อรับจ้างฆ่าอสูรร้ายแลกเงิน แต่กลับพบว่า “มนุษย์” บางครั้งก็เลวร้ายยิ่งกว่าอสูรเสียอีก
เยนเนเฟอร์ แห่ง เวนเกอร์เบิร์ก (Yennefer of Vengerberg): หญิงสาวพิการที่ถูกขายให้กับโรงเรียนเวทมนตร์ เธอต้องผ่านการฝึกฝนที่เจ็บปวดเพื่อกลายเป็นจอมเวทย์ผู้ทรงพลังและงดงาม แต่ต้องแลกมาด้วยต้นทุนที่สูงลิบ
เจ้าหญิงซิริลลา หรือ ซิริ (Princess Cirilla “Ciri”): เจ้าหญิงแห่งซินทรา (Cintra) ที่ชีวิตพลิกผันในชั่วข้ามคืนเมื่ออาณาจักรถูกรุกราน เธอต้องหลบหนีและตามหา “เกรอลท์” ชายที่คือโชคชะตาของเธอ
จุดเด่น (และจุดที่ทำให้คนสับสนที่สุด) ของซีซั่น 1 คือการเล่าเรื่องผ่าน 3 ไทม์ไลน์ ที่แตกต่างกัน ซึ่งจะค่อยๆ เผยปมและบรรจบกันในตอนท้ายครับ
🌟 แนะนำนักแสดงหลักและทีมผู้สร้าง
ความสำเร็จของซีซั่น 1 ส่วนใหญ่ต้องยกเครดิตให้กับการแคสติ้งที่ยอดเยี่ยม:
เฮนรี แควิลล์ (Henry Cavill) รับบท เกรอลท์ แห่ง ริเวีย
(อ่านประวัติและผลงานของ Henry Cavill เพิ่มเติม)
แควิลล์ ผู้เป็นแฟนตัวยงของเกมและหนังสือ ถ่ายทอดบทเกรอลท์ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งการใช้เสียงทุ้มต่ำ (ที่เขาตั้งใจฝึกฝน) และลีลาการต่อสู้ที่ดุดัน
อันยา ชาโลตรา (Anya Chalotra) รับบท เยนเนเฟอร์
(รู้จักเธอมากขึ้นที่ Anya Chalotra)
เธอแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของตัวละคร จากหญิงสาวที่อ่อนแอสู่จอมเวทย์ที่ทรงพลังได้อย่างน่าทึ่ง
เฟรยา อัลลัน (Freya Allan) รับบท ซิริ
(ติดตามผลงานของ Freya Allan)
ถ่ายทอดความหวาดกลัว สับสน แต่ก็เปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นของเจ้าหญิงผู้หลบหนี
ทีมผู้สร้างหลัก: ซีรีส์นี้อยู่ภายใต้การกุมบังเหียนของ ลอเรน ชมิดต์ ฮิสริช (Lauren Schmidt Hissrich) ในตำแหน่ง Showrunner และ Executive Producer (ผู้อำนวยการสร้าง) ซึ่งเธอได้วางรากฐานของโลกอันกว้างใหญ่นี้ไว้ได้อย่างน่าสนใจ
ในฐานะ kserietv.co เราขอสรุปจุดเด่นและจุดสังเกตของซีซั่น 1 ไว้ดังนี้ครับ
จุดเด่น (The Good)
ฉากแอ็กชันและการต่อสู้: นี่คือจุดขายอันดับหนึ่ง! การออกแบบคิวบู๊ (Choreography) โดยเฉพาะฉากต่อสู้ด้วยดาบของเกรอลท์นั้นทำได้ “ยอดเยี่ยม” ดุเดือด สมจริง และสวยงาม (โดยเฉพาะฉากต่อสู้ในตลาด Blaviken ตอนที่ 1)
การแสดงของ เฮนรี แควิลล์: เขาคือเกรอลท์ที่มีชีวิตจริงๆ ความทุ่มเทของเขาปรากฏชัดในทุกฉาก
โลกที่น่าสนใจ: ซีรีส์สร้างโลกแฟนตาซีที่ดิบเถื่อน มีมิติทางการเมือง เวทมนตร์ และศีลธรรมที่สีเทาๆ ได้อย่างน่าติดตาม
จุดสังเกต (The “Confusing” Part)
การเล่าเรื่องแบบ 3 ไทม์ไลน์: นี่คือปัญหาใหญ่สำหรับผู้ชมกลุ่มใหม่ๆ ซีรีส์ไม่ได้บอกเราตรงๆ ว่าเรื่องราวของ เกรอลท์, เยนเนเฟอร์ และ ซิริ เกิดขึ้นในห้วงเวลาที่ต่างกัน (มาก) ซึ่งอาจทำให้สับสนอย่างหนักในช่วงแรกๆ จนกว่าจะเริ่มจับทางได้
📊 คะแนนรีวิวจากนักวิจารณ์
IMDB: 8.1 / 10 (คะแนนค่อนข้างสูงจากฝั่งผู้ชม)
Rotten Tomatoes:
นักวิจารณ์ (Tomatometer): 68% (เสียงแตกเล็กน้อย ส่วนใหญ่ติเรื่องไทม์ไลน์)
ผู้ชม (Audience Score): 91% (ผู้ชมทั่วไปรักซีรีส์เรื่องนี้มาก)
(ใครยังไม่ดู ข้ามส่วนนี้ไปได้เลยครับ!)
หากคุณดูจบแล้ว หรืออยากรู้เลยว่าไทม์ไลน์ที่สับสนนั้นมันเป็นยังไง kserietv จะสรุปให้ฟัง:
ไทม์ไลน์ของ เยนเนเฟอร์: เก่าแก่ที่สุด เธอใช้เวลาหลายสิบปีกว่าจะมาถึงจุดที่เธอเป็นจอมเวทย์ผู้ทรงพลัง
ไทม์ไลน์ของ เกรอลท์: อยู่ช่วงกลาง เขาเดินทางล่าอสูรและได้เข้าไปพัวพันกับ “กฎแห่งความประหลาดใจ” (Law of Surprise) กับพ่อแม่ของซิริ ทำให้โชคชะตาของเขาผูกติดกับซิริ
ไทม์ไลน์ของ ซิริ: คือ “ปัจจุบัน” ที่สุด เรื่องราวของเธอเกิดขึ้นหลังจากการล่มสลายของซินทรา
จุดสำคัญของซีซั่น 1 คืออะไร?
กฎแห่งความประหลาดใจ (Law of Surprise): นี่คือแก่นของเรื่อง เกรอลท์ได้ช่วยพ่อของซิริไว้ และได้เรียกร้อง “สิ่งที่เจ้ามี แต่ยังไม่รู้ว่ามี” เป็นการตอบแทน ซึ่งสิ่งนั้นก็คือ “ซิริ” ที่กำลังอยู่ในครรภ์ของราชินีคาลันเธ (ย่าของซิริ) ทำให้เกรอลท์และซิริถูกผูกมัดด้วยโชคชะตา
การต่อสู้ที่เนินเขาซอดเดน (Battle of Sodden Hill): ฉากสงครามใหญ่ในตอนจบ ที่เหล่าจอมเวทย์ (นำโดยเยนเนเฟอร์) พยายามต้านทานกองทัพนิล์ฟการ์ด (Nilfgaard) เป็นฉากที่เยนเนเฟอร์ปลดปล่อยพลังขั้นสุดยอดของเธอ (Chaos)
ตอนจบ: ไทม์ไลน์ทั้งสามบรรจบกันในที่สุด เกรอลท์ (ที่บาดเจ็บหลังจากการต่อสู้) และ ซิริ (ที่หนีมาตลอด) ได้พบกันในป่า และซิริก็ได้ถามคำถามสำคัญว่า “ใครคือเยนเนเฟอร์?” เป็นการปูทางไปสู่ซีซั่น 2
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญจาก kserietv เราได้รวบรวมคำถามที่คนสงสัยเกี่ยวกับ The Witcher Season 1 มาให้ครับ
Q1: ต้องเล่นเกมหรืออ่านหนังสือก่อนดู The Witcher Season 1 ไหม?
A: ไม่จำเป็นเลยครับ! ซีรีส์นี้ถูกสร้างมาให้ผู้ชมใหม่สามารถเข้าใจและสนุกไปกับมันได้เลย แต่ถ้าคุณเคยเล่นเกมหรืออ่านหนังสือมาก่อน คุณจะเพลิดเพลินกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ และ Easter Eggs ที่ซีรีส์ใส่เข้ามามากขึ้นครับ
Q2: ทำไมไทม์ไลน์ในซีซั่น 1 ถึงได้สับสนจัง?
A: ทีมผู้สร้าง (Lauren Hissrich) ตั้งใจใช้เทคนิคนี้เพื่อแนะนำตัวละครหลักทั้ง 3 ตัว (เกรอลท์, เยนเนเฟอร์, ซิริ) ให้ผู้ชมรู้จัก “ปัจจุบัน” ของพวกเขาไปพร้อมๆ กัน แม้ว่าเรื่องราวในอดีตของแต่ละคนจะเกิดขึ้นห่างกันหลายสิบปีก็ตาม เพื่อให้ตอนจบที่ทั้งสามไทม์ไลน์มาชนกันนั้นทรงพลังที่สุดครับ (แต่ก็ยอมรับว่ามันสับสนจริงๆ ในช่วงแรก)
Q3: The Witcher Season 1 ดูได้ที่ไหน?
A: สามารถรับชม(นักล่าอสูรร้าย ซีซั่น 1) แบบถูกลิขสิทธิ์ได้ทาง Netflix ครับ และแน่นอนว่าคุณสามารถติดตามรีวิวซีรีส์อื่นๆ ทั้งใหม่และเก่า รวมถึงสปอยล์มันส์ๆ ได้ที่เว็บไซต์ kserietv.co ของเราครับ