Vincenzo (2021) วินเชนโซ่ ทนายมาเฟีย

ดูซีรี่ย์เกาหลี Vincenzo (2021) วินเชนโซ่ ทนายมาเฟีย หลังจากถูกรับเลี้ยง พัคจูฮยองในวัย 8 ขวบ ได้ย้ายไปอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ที่อิตาลี และเปลี่ยนชื่อไปเป็น วินเชนโซ่ คาซาโน่ ตอนนี้เขาโตเป็นผู้ใหญ่ ทำงานเป็นทนายให้คำปรึกษากับกลุ่มมาเฟีย แต่เพราะสงครามที่เกิดขึ้นระหว่างกลุ่มมาเฟีย ทำให้วินเชนโซ่ตัดสินใจหนีกลับเกาหลี เพื่อตามหาทองคำแท่งที่ถูกฝังอยู่ใต้อาคารในโซล ระหว่างนั้นเขาได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการต่อสู้ทางกฎหมายกับกลุ่มบริษัทใหญ่ และได้พบกับทนายฮงชายอง (จอนยอนบิน) ทนายสาวที่ทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองชนะคดี ดูซีรี่ย์ Vincenzo (2021) วินเชนโซ่ ทนายมาเฟีย ที่ kserietv

At the age of eight, Park Joo Hyeong left for Italy after being adopted. Now an adult, he is known as Vincenzo Cassano and employed by a Mafia family as a consigliere. Due to warring Mafia factions, he flies to South Korea where he gets involved with lawyer Hong Cha Young. She is the type of attorney who will do anything to win a case. Now back in his motherland, he gives an unrivalled conglomerate a taste of his own medicine—with a side of his own version of justice.

Native Title: 빈센조
Also Known As: Binsenjo
Screenwriter: Park Jae Bum
Director: Kim Hee Won
Genres: Comedy, Law, Crime, Drama

ดูซีรี่ย์ Vincenzo (2021): เมื่อทนายมาเฟียกลับมาทวงความยุติธรรมในแบบฉบับดาร์คคอมเมดี้สุดเดือด

สวัสดีค่ะแฟนๆ ซีรีส์เกาหลีทุกท่าน วันนี้ kserietv จะพาทุกคนไปย้อนรอยความมันส์กับซีรีส์ที่เคยสร้างปรากฏการณ์ไปทั่วทั้งเอเชียอย่าง (วินเชนโซ่ ทนายมาเฟีย) ซีรีส์ที่ผสมผสานความแอ็คชั่นสุดระห่ำ ดราม่าเข้มข้น และคอมเมดี้สุดกวนได้อย่างลงตัว จนกลายเป็นอีกหนึ่งผลงานมาสเตอร์พีซที่คอซีรีส์ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

ออกอากาศทางช่อง tvN และ Netflix ในปี 2021 ได้รับกระแสตอบรับอย่างถล่มทลายด้วยเนื้อเรื่องที่แปลกใหม่และตัวละครที่มีเสน่ห์น่าจดจำ หากคุณกำลังมองหาซีรีส์ที่ครบเครื่องทุกรสชาติ บทความนี้จาก kserietv.co จะพาคุณไปเจาะลึกทุกแง่มุมของทนายมาเฟียคนนี้กันค่ะ

เรื่องย่อ Vincenzo: การต่อสู้ของคนเลวที่จัดการคนเลวกว่า

เรื่องราวเริ่มต้นที่ วินเชนโซ่ กาซาโน (รับบทโดย ซงจุงกิ) คอนซิลเยเร่ (ที่ปรึกษา) ของแก๊งมาเฟียในอิตาลี เขาเป็นทนายเลือดเย็นและฉลาดเป็นกรดที่ทำงานให้กับตระกูลกาซาโนมาอย่างยาวนาน แต่แล้วเมื่อหัวหน้าแก๊งเสียชีวิตและเกิดความขัดแย้งภายใน วินเชนโซ่จึงตัดสินใจเดินทางกลับมายังเกาหลีใต้ บ้านเกิดของเขา เพื่อจัดการกับทองคำแท่งมหาศาลที่ถูกซ่อนไว้ใต้ตึก “คึมกาพลาซ่า”

แต่เรื่องราวกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อตึกคึมกาพลาซ่ากำลังจะถูกทุบทิ้งโดย “บาเบล กรุ๊ป” บริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ที่ใช้วิธีสกปรกและไร้มนุษยธรรมในการทำธุรกิจ วินเชนโซ่จึงต้องร่วมมือกับ ฮงชายอง (รับบทโดย จอนยอบิน) ทนายสาวฝีปากกล้า และเหล่าผู้เช่าสุดเพี้ยนในตึก เพื่อต่อสู้กับบาเบลกรุ๊ปในรูปแบบที่ “กฎหมาย” อาจให้ความยุติธรรมไม่ได้ การต่อสู้ของดาร์คฮีโร่เพื่อโค่นล้มองค์กรที่ชั่วร้ายยิ่งกว่าจึงได้เริ่มต้นขึ้น!

ทำความรู้จักกับทีมนักแสดงและผู้สร้าง

ความสำเร็จของ  ไม่ได้มาจากบทที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังมาจากการรวมตัวของนักแสดงและทีมงานคุณภาพอีกด้วย

• ซงจุงกิ (Song Joong-ki) รับบท วินเชนโซ่ กาซาโน: การกลับมาทวงบัลลังก์พระเอกแถวหน้าของซงจุงกิในบททนายมาเฟียสุดเท่ ที่มีทั้งความโหดเหี้ยม ฉลาด และมีมุมตลกๆ ที่ทำให้ผู้ชมตกหลุมรักได้อย่างง่ายดาย
• จอนยอบิน (Jeon Yeo-been) รับบท ฮงชายอง: นักแสดงสาวมากความสามารถที่ถ่ายทอดบททนายสาวสุดมั่นได้อย่างทรงพลัง เคมีของเธอกับซงจุงกิถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของเรื่อง
• อ๊กแทคยอน (Ok Taec-yeon) รับบท จางจุนอู: ไอดอลหนุ่มจากวง 2PM ที่พลิกบทบาทมารับบทตัวร้ายได้อย่างน่าขนลุก เผยให้เห็นพัฒนาการด้านการแสดงที่ก้าวกระโดด
• ผู้กำกับ: คิมฮีวอน (Kim Hee-won) ผู้เคยฝากผลงานไว้ในเรื่อง The Crowned Clown และ Money Flower
• นักเขียนบท: พัคแจบอม (Park Jae-bum) เจ้าของผลงานสุดฮิตอย่าง The Fiery Priest และ Good Manager ซึ่งเป็นเครื่องการันตีบทสนทนาที่เฉียบคมและเนื้อเรื่องที่คาดเดายาก

รีวิวจากสื่อต่างประเทศและคะแนนความนิยม

ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติและได้คะแนนรีวิวที่สูงจากหลายสำนัก:

• IMDb: ได้คะแนนสูงถึง 8.4/10 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความนิยมและความชื่นชอบจากผู้ชมทั่วโลก
• Rotten Tomatoes: ได้คะแนนฝั่งนักวิจารณ์และผู้ชมในระดับที่ดีเยี่ยม โดยส่วนใหญ่ชื่นชมการผสมผสานแนวเรื่องที่หลากหลายได้อย่างลงตัว และการแสดงที่ทรงพลังของซงจุงกิ

ทำไม Vincenzo ถึงเป็นซีรีส์ที่ต้องดู?

1. พล็อตเรื่องสุดแหวกแนว: การนำเสนอฮีโร่ในมุมมืดที่ใช้วิธีการของเหล่าร้ายมาปราบคนชั่ว เป็นอะไรที่สดใหม่และน่าติดตาม
2. เคมีนักแสดงที่ลงตัว: การปะทะบทบาทระหว่างวินเชนโซ่และฮงชายองสร้างทั้งความฟินและความฮา ในขณะที่เหล่าผู้เช่าในคึมกาพลาซ่าก็สร้างสีสันและเสียงหัวเราะได้ตลอดทั้งเรื่อง
3. โปรดักชั่นสุดอลังการ: ฉากแอ็คชั่นและงานภาพทำออกมาได้อย่างสวยงามและสมจริง โดยเฉพาะฉากในอิตาลีที่ช่วยเปิดเรื่องได้อย่างน่าประทับใจ
4. บทพูดที่เฉียบคม: สมกับเป็นผลงานของนักเขียนพัคแจบอม บทสนทนาในเรื่องเต็มไปด้วยความคมคาย เสียดสีสังคม และมีประโยคเด็ดๆ ให้จดจำมากมาย

สำหรับใครที่ยังไม่เคยดู หรืออยากจะกลับไปสัมผัสความสนุกอีกครั้ง สามารถรับชม (วินเชนโซ่ ทนายมาเฟีย) ได้ทาง kserietv แหล่งรวมซีรีส์คุณภาพที่คุณไม่ควรพลาด

jw journal

⭐ ⭐ ⭐ ⭐ ⭐

ฉันกำลังดูตอนที่ 18 ของ  (กำลังรอตอนที่ 19 และ 20 อย่างใจจดใจจ่อ) ฉันสนุกกับซีรีส์เกาหลีเรื่องนี้มาก และนี่คือสิ่งที่ฉันคิดเกี่ยวกับซีรีส์เรื่องนี้!! 🙂 สรุปสั้นๆ:  เป็นซีรีส์เกาหลีที่บอกเล่าเรื่องราวของที่ปรึกษาชาวเกาหลีผู้มีความสามารถจากอิตาลีที่ได้พบกับทนายความสาวที่เฉลียวฉลาดและเฉียบแหลมผ่านความสัมพันธ์แบบร่วมมือกัน พวกเธอช่วยกันต่อสู้เพื่อความยุติธรรม

โดยส่วนตัวแล้ว ฉันสนุกกับซีรีส์เกาหลีเรื่องนี้มาก โครงเรื่องน่าพอใจมาก มีหลายฉากในซีรีส์ที่ทำให้ฉันอยากดูฉากนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า นักเขียนรู้ดีว่ากำลังทำอะไรอยู่ ฮ่าๆ ตัวละครทุกตัวถูกสร้างขึ้นและแนะนำได้ดีมาก แม้กระทั่งตั้งแต่ต้น ฉันคิดว่าตัวละครนำทั้งสองคนได้รับการเขียนออกมาอย่างสวยงาม และยังได้รับการถ่ายทอดอย่างสมบูรณ์แบบโดย Song Joong Ki และ Jeon Yeo Been อีกด้วย ฉันเชื่อในตัวเองว่าตัวละครของฮงชายองนั้นถ่ายทอดออกมาได้ดีมากและฉันคิดว่าวิธีที่จอนยอบีแสดงตัวละครนี้ทำให้เราเข้าใจได้เร็วขึ้นว่าฮงชายองเป็นคนแบบไหน ฮงชายองเป็นตัวละครที่มีไหวพริบและเฉียบแหลมแต่ก็มีความสามารถและฉลาดมาก ฉันคิดว่าวิธีที่นักแสดงแสดงตัวละครนี้ทำให้เห็นว่าฮงชายองควรจะเป็นอย่างไรและทำให้เรารู้สึกเชื่อมโยงกับเธอได้ ตอนนี้มาดูตัวละครของวินเซนโซกัน ตัวละครของเขาถูกเขียนออกมาได้ดีมาก บุคลิกและพฤติกรรมของเขาถูกแสดงให้เราเห็นอย่างลึกซึ้งและละเอียดตั้งแต่สองสามตอนแรก ทำให้ผู้ชมรู้สึกผูกพันกับตัวละครหลักอย่างลึกซึ้งตั้งแต่ต้นเรื่อง วินเซนโซยังถูกแนะนำว่าค่อนข้างคาดเดาไม่ได้เพราะเขาอาจเป็นคนที่น่ากลัวและก้าวร้าวที่สุดก็ได้แต่ก็อาจเป็นผู้เช่าที่อ่อนโยนและเอาใจใส่ที่สุดได้เช่นกัน สิ่งนี้ทำให้ผู้ชมรู้สึกลึกลับ ทำให้เราตั้งตารอแต่ละตอนเพราะเราไม่รู้ว่าวินเซนโซจะทำอะไรต่อไป สิ่งหนึ่งที่ฉันสังเกตเห็นเกี่ยวกับละครเกาหลีเรื่องนี้คือตัวละครแต่ละตัว (แม้ว่าพวกเขาจะเป็นตัวร้าย) ต่างก็มีแนวทางการแสดงตลก *สปอยล์* จางจุนอูหรือจางฮันซอกเป็นตัวร้ายหลักและเป็นปีศาจโรคจิตซาดิสต์ อย่างไรก็ตาม เขายังมีด้านตลกเมื่อเขาต้องแสดงและแสร้งทำเป็นเด็กฝึกงานที่ซุ่มซ่ามและน่ารักต่อหน้าคนที่ไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา *จบสปอยล์* โดยรวมแล้วตัวละครทั้งหมดน่าสนใจมากและแสดงออกมาได้ดีมาก ฉันสนุกกับการเห็นพวกเขาผูกพันกันเพราะพวกเขาทั้งหมดตลกแต่ก็ดูน่าสนใจด้วย

พล็อตเรื่องน่าสนใจและชาญฉลาดมาก ทำให้ผู้ชมสามารถดื่มด่ำกับละครได้ตั้งแต่ต้น ละครเกาหลีเรื่องนี้ทำให้ผู้ชมสามารถคิดได้จริงๆ มีการพลิกผันของเนื้อเรื่อง การทรยศ ฯลฯ เกิดขึ้นมากมาย ทำให้เรื่องราวน่าสนใจและดึงดูดผู้ชมให้รับชม การต่อสู้ที่ต่อเนื่องระหว่างพระเอกกับตัวร้ายนั้นน่าติดตามมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อวินเซนโซคิดวิธีสร้างสรรค์และไม่เหมือนใครมากมายในการเอาชนะจางฮันซอก

ฉันต้องบอกด้วยว่าเคมีระหว่างวินเซนโซกับฮงชายองนั้นสวยงามและน่ารักมาก *สปอยล์* แม้ว่าพวกเขาจะยังไม่ได้สารภาพความรู้สึกอย่างเป็นทางการก็ตาม >:( ฉันหวังจริงๆ ว่าจะมีฉากสารภาพในตอนที่ 19 หรือ 20! 😀 *จบสปอยล์* นอกจากนี้เราสามารถใช้เวลาสักครู่เพื่อชื่นชมการถ่ายภาพในวินเซนโซได้ไหม ว่าอะไรนะ!! มันสวยงามมากและนำเสนอในรูปแบบศิลปะ! หวังว่าพวกเขาจะมีซีซั่นต่อไปเพราะเหลืออีกแค่ 2 ตอน :(( จะพลาดซีรีส์เรื่องนี้แน่นอน! สรุป: วินเซนโซเป็นซีรีส์ที่ดีที่สุด และคุณควรดูอย่างแน่นอน!

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q1: ซีรีส์ มีทั้งหมดกี่ตอน? A: มีความยาวทั้งหมด 20 ตอน และมีตอนพิเศษ (Special Episode) อีก 1 ตอนค่ะ

Q2: เป็นซีรีส์แนวไหน? A: เป็นซีรีส์แนว ดาร์คคอมเมดี้-อาชญากรรม-ดราม่า ที่ผสมผสานความตลก แอ็คชั่น และความเข้มข้นของเนื้อหาไว้ด้วยกันค่ะ

Q3: จะมี Vincenzo ซีซั่น 2 หรือไม่? A: ถึงแม้จะได้รับความนิยมอย่างสูง แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากทีมผู้สร้างว่าจะมีการสร้างซีซั่น 2 ค่ะ แต่แฟนๆ ยังคงคาดหวังกันอยู่เสมอ

Q4: ซีรีส์เรื่องนี้เหมาะกับผู้ชมกลุ่มไหน? A: เหมาะสำหรับผู้ชมที่ชื่นชอบซีรีส์ที่มีเนื้อเรื่องเข้มข้น ตัวละครฉลาดทันคน มีฉากแอ็คชั่นเท่ๆ และสอดแทรกมุกตลกที่ทำให้ไม่เครียดจนเกินไป สามารถรับชมได้ทุกเพศทุกวัย (อาจมีเนื้อหาความรุนแรงบ้างตามแนวเรื่อง)