ซีรี่ย์ ปี 2013 หมายถึง ละครโทรทัศน์และเว็บซีรีส์ที่ออกอากาศครั้งแรกในปี พ.ศ. 2556 (ค.ศ. 2013) ซึ่งเป็นปีที่วงการบันเทิงทั่วโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทั้งในด้านเนื้อหา เทคโนโลยีการผลิต และรูปแบบการเผยแพร่
[read more]
ยุคทองของซีรีส์สตรีมมิ่ง
Netflix เริ่มปล่อยซีรีส์ต้นฉบับเต็มรูปแบบครั้งแรก (House of Cards)
Amazon Prime เริ่มผลิตซีรีส์เอง (Alpha House)
เนื้อหาเข้มข้นขึ้น
เกิดแนว “Dark Drama” ที่ไม่เกรงกลัวการเล่าเรื่องหักมุม
ซีรีส์อาชญากรรมและจิตวิทยาเฟื่องฟู
เทคนิคการผลิตระดับหนัง
ใช้งบประมาณสูงกว่าเดิม 30-50%
ใช้กล้องและเทคนิคโพสต์โปรดักชันแบบภาพยนตร์
เกาหลีเริ่มโด่งดังระดับโลก
ซีรีส์เกาหลีหลายเรื่องถูกพูดถึงในระดับสากล
เริ่มมีรีเมกเวอร์ชั่นต่างประเทศ
ละครไทยปรับรูปแบบ
ลดละครน้ำดีแบบดั้งเดิม
เริ่มทดลองเนื้อหาแนวใหม่มากขึ้น
“2013 คือปีที่พิสูจน์ว่าซีรีส์สามารถมีคุณภาพเทียบเท่าภาพยนตร์ และเป็นจุดเริ่มต้นของยุคทองแห่งซีรีส์ดิจิทัล”
ซีรี่ย์ปี 2013 หลายเรื่องยังคงถูกพูดถึงและมีอิทธิพลต่อการผลิตซีรีส์ในปัจจุบัน ทั้งในแง่รูปแบบการเล่าเรื่องและเทคนิคการผลิต
วันนี้เรามีซีรี่ย์ ปี 2013 มาแนะนำ
1 Reply 1994 (2013) ย้อนวันรัก 1994

ปี 2013 ที่เป็นปัจจุบัน (ตอนนั้น) กลุ่มเพื่อนที่เคยอาศัยชายคาหอพักชินชนด้วยกันได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งในงานขึ้นบ้านใหม่ของซองนาจอง (โกอารา) ซึ่งประกอบด้วยโจยุนจิน (มินโดฮี) , ซัมซอนโพ (คิมคยองซุน) , แฮแท (ซนโฮจุน) , บิงเกอเร (บาโร) ที่เป็นเพื่อนสนิทของนักเบสบอลระดับสตาร์ชิลบง (ยูยอนซอก) และคนสุดท้ายอดีตพี่ใหญ่ในหอเจ้าของฉายาพี่ขยะ (จองอู) แล้วเมื่อทุกคนได้ดูวีดีโองานแต่งงานของซองนาจองก็คือจุดเริ่มต้นของการรำลึกถึงอดีตตั้งแต่ทุกคนมาเจอกันในหอพักและใช้ชีวิตนักศึกษามหาวิทยาลัยด้วยกันในปี 1994 แล้วเรื่องก็พาคนดูไปค้นหากุญแจปริศนาความรักของซองนาจองเมื่อหนึ่งในห้าของผู้ชายที่เธอได้พบเจอตอนนั้นคือเจ้าบ่าว แต่จะเป็นใครเรื่องก็ปั่นหัวคนดูได้ด้วยการย้อนความทรงจำคนดูไปพร้อมกับตัวละคร เมื่อคนที่เคยผ่านช่วงเวลานั้นมาก็จะถวิลหาและคิดถึงอะไรก็ตามที่มีผลต่อความทรงจำ
ถ้าวัดกันที่ Reply 1988 คือความสมบูรณ์ลงตัวที่สุดของซีรีส์ตระกูลนี้ก็นับว่าซีรีส์ชุดนี้ก็ผ่านอะไรมามาก และสารภาพตรงนี้ว่าผู้เขียนดู 1988 ก่อนแล้วมาดูเรื่องนี้และดู 1997 ไม่จบ อาจเพราะกุญแจใน 1997 ถูกเฉลยใน 1994 แล้วความลุ้นเลยหายไปก็มีส่วน แต่ที่มีส่วนอย่างมากคือความทรงจำของผู้เขียนในปี 1997 เป็นคนละช่วงวัยกับเรื่องที่เล่าความรู้สึกจับใจเลยเข้าไม่ถึง ซึ่งถ้าวัดกันที่ 1994 (ที่มาก่อน) กับ 1988 เรื่องหลังคือการวางปริศนาความรักที่ใส่ชั้นเชิงการสืบหาความจริงหลอกล่อให้คนดูคาดเดามาปั่นหัว เลยเหมือนการขายความโรแมนติกผ่านเรื่องของมิตรภาพของเพื่อนมหาวิทยาลัยที่กำลังจะก้าวพ้นวัย จึงเป็นงาน Comimg Of Age ชั้นดีมากกว่าจะเป็นเรื่องครอบครัวมิตรภาพและความรักดังเช่น 1988 ที่ดูลงตัวกว่าเพราะมิติหลากหลายกว่า กระนั้น 1994 ก็มีดีในตัวในการซ่อนปริศนาไว้หลังช่วงวัยที่เริ่มมองความรักอย่างจริงจังก่อนที่บทสรุปจะอบอุ่นและใจฟู
แล้วหากซองนาจองใช้ชีวิตอยู่กับคนที่เป็นดังพี่ชายที่แสนดีมาทั้งชีวิต แน่นอนเธอมีใจให้พี่ขยะแต่ไม่อาจเอื้อมเพราะใกล้ชิดเกินไปในแบบพี่กับน้อง แต่บทก็ไม่ได้ปกปิดว่าส่วนลึกในใจพี่ขยะก็ไม่ต่างจากซองนาจองแต่การที่ได้รับความรักประหนึ่งลูกชายแท้ๆจากพ่อและแม่ซองนาจองก็ทำให้ไม่อาจเอื้อมเช่นกัน และเมื่อความรักที่ถูกเร้นแล้วนิ่งอยู่กับที่ย่อมต้องมีปัจจัยแทรกซ้อนคือความรักเช่นกันและมาในรูปแบบนักกีฬารูปหล่อนิสัยดีชิลบง แต่ถึงที่สุดรักสามเส้าก็คือซองนาจองและพี่ขยะมีใจให้กันแต่ชิลบงก็ไม่เคยสิ้นศรัทธาในความรักที่เขามี แถมด้วยปัจจัยมากมายที่แปรผันทำให้คาดเดาไม่ได้ว่าสุดท้ายซองนาจองจะเลือกใคร แต่นั่นคือชั้นเชิงที่ร้ายกาจเพราะคนดูจะเลือกแทนซองนาจองไปแล้วและแบ่งข้าง นั่นคือคนดูมีความรู้สึกร่วมกับซองนาจองที่มีชายแสนดีสองคนเข้ามาในชีวิต แต่ถ้าจะเสียดายคือช่วงท้ายพยายามปั่นหัวคนดูเยอะเกินไปเลยกลายเป็นยืดเยื้อเล็กๆ
เพราะยุค 90 คือยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านจากอะนาล็อกสู่ดิจิตอลหลายคนจึงมองว่ายุค 90 คือความคลาสสิค แต่น่าเสียดายที่ความคลาสสิคนั้นไม่ได้ถูกเอามาใช้ให้เต็มที่ต่างจาก 1988 (ที่มาทีหลัง) ก็ใช่ที่บริบททางสังคมมีส่วนเพราะยุคนั้นคือยุคทองของหนังฮ่องกงที่ทรงอิทธิพลที่ได้ถูกอ้างอิงถึงเลสลี่ จางหรือหวังจู่เสียนและเห็นเงาลางๆของหนังโปเยโปโลเย ทำให้สัมผัสของบริบททางสังคมบันเทิงของเกาหลีจูนไม่ติดกับความรู้สึกคนดู แต่ยุค 90 ก็มีอะไรให้คิดถึงมากมายทั้งดนตรีป็อปบั๊บเบิลกัม ยุคของมิวสิควีดีโอร้องให้กลางสายฝน เพจเจอร์แพ็คลิงค์โฟนลิงค์ ยุคแห่งกล้องโกดักและฟิล์มสีฟูจิที่กล้องโพลารอยด์คืออะไรที่ต้องทึ่ง ทุกอย่างที่มีถูกบอกเล่าให้คิดถึงแต่มีผลกับจิตใจไม่มากเพราะเรื่องเน้นไปที่เนื้อหาของปริศนาความรัก และสิ่งที่ชัดที่สุดก็คือมิตรภาพของเพื่อนมหาวิทยาลัยที่เป็นวัยที่โตพอที่จะเมาได้รั่วได้เรื้อนได้ที่จับใจมากกว่า

เหมือนเป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์ Reply หรือไม่ที่นางเอกต้องรั่วเรื้อน และกับเรื่องนี้นางเอกนัยน์ตาสวยโกอาราได้ใช้มิติความรั่วเรื้อนออกมาเต็มที่เพราะเรื้อนสุดๆจนกระทั่งในความรู้สึกยังนึกว่าชิลบงโดนยาตัวไหนมา แต่เมื่อคิดอีกทีสายตาคนอาจมองเห็นอะไรต่างกันและสิ่งที่ดีที่สุดของเรื่องนี้ก็คือความเรื้อนและความน่ารำคาญที่เหมือนติดตัวโกอารามาทุกเรื่องที่กลายมาเป็นบุคลิกที่ลงตัวของซองนาจอง นั่นคือใช้ความน่ารำคาญมาส่งบทให้ดีข้นอีกระดับแต่ที่ชัดเจนในสายตาและการแสดงออกคือจองอูในบทพี่ขยะที่แสดงให้เห็นทัศนคติและมิติทางใจจนกระทั่งแม้คนดูที่เป็นผู้ชายยังรู้สึกว่าคนคนนี้คือคนที่น่าคบหา และถ้าได้เป็นมิตรสหายจะกลายมาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดที่สามารถร่วมทุกข์ร่วมสุขในฐานะเพื่อนแท้ได้อย่างสนิทใจ และยังรวมไปถึงเสน่ห์และการแสดงที่สมบทบาทของยูยอนซอกและเหล่าผองเพื่อนที่เป็นผงชูรสชั้นดี
2 Jang Ok Jung (2013) จางอ๊กจอง ตำนานรักคู่บัลลังก์

ในวัยเด็กจางอ๊กจอง เธอผู้เป็นหญิงสาวชนชั้นต่ำ มีบิดาเป็นชนชั้นสูง แต่มารดาของเธอเป็นเพียงทาส มีพี่ชายหนึ่งคนแต่ได้หายสาบสูญไป (กลับมาพบกันในตอนโต) ครอบครัวของเธอต้องใช้ชีวิตอย่างอยากลำบากในโชซอน ด้วยเพราะมีสายเลือดชนชั้นต่ำ แต่ถึงกระนั่นเธอได้รับการอุปการะเลี้ยงดูจากนายหญิงคัง ให้เรียนรู้การตัดเย็บเสื้อผ้า เธอได้ตั้งใจทำงาน ตัดเย็บเสื้อผ้าออกมาขายเพื่อเก็บเงินไถ่ทอนตัวมารดาจากการเป็นทาส
มีเหตุการณ์ในวันหนึ่งที่ทำให้เธอได้พบกับองค์ชายรัชทายาทอีซุน ที่ปลอมตัวออกนอกวังหลวงมาดูความเป็นอยู่ของราษฎรและตามหาขุนนางเก่าที่ทรงความยุติธรรมให้กับบ้านเมือง ทั้งสองได้พบกันบ่อยมากขึ้น แต่ต่างฝ่ายต่างไม่รู้สถานะของกัน และเริ่มที่สนิทสนมกัน องค์ชายได้ให้สัญญาต่อนางว่า ข้าจะมารอพบเจ้าที่ใต้ต้นไม้แห่งนี้ และหากวันใดข้าหายตัวไป ให้เจ้าไปตามหาข้าได้ที่วังหลวง หลังจากนั่นองค์ชายรัชทายาทก็ต้องกลับวังหลวงเพื่อแต่งงานกับสตรีลูกขุนนางที่ตนไม่ได้รัก เพื่อรักษาความสมดุลของอำนาจในราชสำนัก

เป็นช่วงที่ จางอ๊กจอง เริ่มเข้าสู่วังหลวงในตำแหน่งนางในห้องตัดเย็บ เธอเริ่มหาโอกาสที่จะใกล้ฝ่าบาท พระเจ้าซุกจง (องค์ชายรัชทายาทอีซุน ที่ได้เป็นกษัตริย์แล้ว) โดยมีการกีดกันจากพระพันปีคิม และมเหสีอินฮยอน (ธิดาขุนนางฝ่ายตะวันตก) ที่คุมอำนาจในราชสำนักและฉ้อโกง แต่ด้วยอำนาจทางการเมืองในราชสำนักที่แบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายตะวันตก และฝ่ายใต้ ทำให้พระอัยยิกาผู้นำฝ่ายใต้ที่รู้ว่าจางอ๊กจองกับฝ่าบาทเคยพบรักกัน จึงสนับสนุนให้นางได้ขึ้นเป็นพระสนม (เรื่องราวช่วงนี้เข้มข้นมาก) ซุกวอน (ระดับ4) และได้เลื่อนเป็นพระสนมเอกฮีบิน เมื่อตั้งครรภ์และให้กำเนิดพระโอรสองค์ใหญ่ ในช่วงนี้ทำให้มีเหตุการณ์ต่อต้านเธอหลายอย่าง ทั้งเรื่องชนชั้น เรื่องตำแหน่งพระสนม เรื่องอำนาจในราชสำนัก แต่เธอก็ต่อสู้เพื่อให้ได้รักกับฝ่าบาท
(มีเหตุการณ์ผันผวนหลายอย่างเกิดขึ้น) หลังจากที่มีการปลดพระมเหสีอินฮยอน เธอได้ขึ้นเป็นพระมเหสีแทน ทำให้ขุนนางฝ่ายตะวันตกเริ่มด้นถอยอำนาจ แต่ฝ่ายใต้ฝั่งสนับสนุนนางมีอำนาจแข็งข้อมากขึ้น และนักเรียนสมัยใหม่ได้สงสารอดีตพระมเหสีจึงมีการประท้วง เพื่อความเป็นกลางทางการเมืองหลายประการ ทำให้อดีตพระมเหสีอินฮยอนกลับสู่ตำแหน่งเดิม และจางอ๊กจองคืนเป็นพระสนมเอก หลังจากพระมเหสีอินฮยอนคืนสู่ตำแหน่ง นางได้ล่มป่วย จึงมีพระสนมองค์อื่นใส่ร้ายพระสนมเอกว่าทำพีธีมนต์ดกสาปแช่งพระมเหสี (พิธีต้องห้ามในวังหลวง) ทำให้เรื่องราวใหญ่โตเป็นเรื่องที่หาข้ออ้างปลดตำแหน่งนาง และตำแหน่งรัชทายาทของลูกนาง ฝ่าบาทได้พยายามปกป้องเธอ แต่เธอกลัวว่าฝ่าบาทจะเป็นที่ครหาต่อเหล่าขุนนาง ไม่เป็นที่เคารพต่อราษฎร และเป็นภัยต่อพระโอรสในอนาคต เธอจึงได้ปลิดชีพตัวเองด้วยยาพิษ ทำให้ฝ่าบาทเสียใจเป็นอย่างมาก
3. Heartless City (2013) ไฟรักเมืองแค้น

Heartless City (ไฟรักเมืองแค้น) เป็นเรื่องราวที่เข้มข้นของสายลับ ตำรวจ และสมาชิกแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ โดยเริ่มต้นจากความสูญเสียของ ลี คยองมี ตำรวจสาวและเพื่อนรักของ ยูน ซูมิน ซึ่งเธอนับถือดุจพี่สาว คยองมีเสียชีวิตในระหว่างปฏิบัติหน้าที่หลังจากแฝงตัวเข้าไปสืบสวนความลับในวงการค้ายา เมื่อซูมินรู้สึกเหมือนอยู่คนเดียวในโลกหลังจากการสูญเสียครั้งใหญ่ เธอตัดสินใจเข้ามาสานต่องานที่ค้างคาอยู่ของคยองมี ด้วยการเป็นสายลับ แม้รู้ว่างานนี้เต็มไปด้วยความเสี่ยงและอันตราย แต่ซูมินก็มีความมุ่งมั่นในการจับฆาตกรที่ฆ่าเพื่อนของเธอ
4. Empress ki (2013) กีซึงนัง จอมนางสองแผ่นดิน

เรื่องย่อ: เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงคนนึงที่ได้กลายเป็นจักรพรรดินีกี และเธอได้ดิ้นรนฝ่าฟันผ่านสงคราม การสมคบคิดทางการเมือง และราชสำนักเพื่อที่จะเป็นจักพรรดินีของราชวงศ์หยวนของประเทศจีน ซีรีย์เรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงบุคคลในประวัติศาสตร์ที่โหดร้าย และผู้หญิงที่ทำทุกอย่างเพื่อปกป้องคนที่เธอรัก
5Back to Seventeen (2023) 17 อีกครั้งก็ยังแจ๋ว

จ่งเสี่ยวเซียว เป็นหญิงสาวคนธรรมดาในวัย 27 ปี ที่มีโอกาสไปงานเลี้ยงรวมรุ่นกับเพื่อนสมัยเรียนอีกครั้ง โดยเธอตั้งใจที่จะมอบของขวัญบางอย่างกับ สวี่ย่าง คนที่เธอเคยเกลียดแต่กลายเป็นแอบชอบ แม้ว่าสมัยก่อนพวกเขาจะมีนิสัยแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เขาเป็นเด็กหนุ่มเสเพล ปากร้าย ชอบบูลลี่ ซ้ำร้ายยังมักจะเย็นชาใส่เธอแบบชนิดที่แสดงออกชัดเจน แต่แล้วก็มีปาฏิหาริย์บางอย่างที่อยู่ ๆ ก็พาเธอย้อนกลับไปอยู่ในช่วงอายุ 17 ปีอีกครั้ง และนั่นเป็นจุดที่ทำให้เธอได้รู้จักตัวตนอีกมุมหนึ่งของสวี่ย่าง ที่เธอก็ยังไม่เคยสัมผัสมาก่อนเช่นกัน

[/read]