ดูซีรี่ย์ 2019 » ดูซีรี่ย์ออนไลน์ KseriesTV เคซีรี่ย์

ซีรี่ย์น่าดูประจำปี 2019

ดูซีรีส์ปี ปี 2019 หมายถึง ละครโทรทัศน์หรือซีรีส์ที่ ออกอากาศครั้งแรกในปี พ.ศ. 2562 (ค.ศ. 2019) ทั้งในระบบทีวีทั่วไปและแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง (เช่น Netflix, Viu, Disney+, WeTV, iQIYI เป็นต้น) โดยครอบคลุมซีรีส์จากทุกประเทศทั่วโลก

[read more]

รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับซีรีส์ปี 2019

1. ปีออกอากาศสำคัญที่สุด

   • ถือเกณฑ์ปีที่ซีรีส์ออกอากาศครั้งแรก ไม่ใช่ปีที่ถ่ายทำ

   • ตัวอย่าง: The Witcher (Netflix) ถ่ายทำปี 2018–2019 แต่เปิดตัว 20 ธันวาคม 2019 จึงนับเป็นซีรีส์ปี 2019

2. รวมทุกประเภทและทุกประเทศ

   • ไม่จำกัดเฉพาะซีรีส์ไทยหรือเกาหลี แต่รวมถึงซีรีส์ระดับโลก

   • เช่น อเมริกัน (The Mandalorian), เกาหลี (Hotel del Luna), ไทย (กลิ่นกาสะลอง), จีน (The Untamed)

3. รูปแบบการเผยแพร่

   • ทางโทรทัศน์ (ช่อง 3, GMM25, tvN, HBO)

   • สตรีมมิ่ง (Netflix, LINE TV, Viu, Apple TV+)

แนะนำ ซีรี่ย์ 2019 น่าดู ที่ไม่ควรพลาด

1 The Fiery Priest (2019) บาทหลวงเลือดระอุ

เนื้อเรื่องจะตามติดชีวิตบาทหลวงที่ชื่อ คิม แฮ อิล ก่อนที่จะมาเป็นบาทหลวง เขาเคยเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยรบพิเศษ ผ่านการฝึกฝนอย่างหนัก เป็นนักรบมือฉมัง ก่อนที่จะเกิดเหตุทำให้เขาต้องล้างมือ และชำระบาปด้วยการหันมาเป็นบาทหลวงแทน แต่ถึงหันหน้าเข้าหาพระเจ้าแล้ว นิสัยเก่า ๆ ก็ยังไม่หาย ฉะนั้นเมื่อมีเรื่องมาสะกิดต่อมนาง นางจะระเบิดแล้วพังคู่ต่อสู้ให้ราบเป็นหน้ากอง ทำให้หลาย ๆ คนถึงกับกลัวกันเลยทีเดียว

วันหนึ่งพระคุณเจ้าอี ยัง จุน ที่เขาสนิทที่สุด และเป็นเหมือนพ่อในวงการศาสนาของเขาเกิดเสียชีวิตอย่างปริศนา มีข่าวออกมาว่าเป็นการฆ่าตัวตาย หนีความผิดฉ้อโกง และลวนลามผู้หญิง แต่คิม แฮ อิลไม่เชื่อ เขาจึงเริ่มต้นสืบหาความจริง เพื่อล้างมลทินให้กับพระคุณเจ้า

ในตอนแรกที่เขาสืบหาความจริง นอกจากซอ เซิง อา ตำรวจสาวมือใหม่ ก็ไม่มีใครให้ความร่วมมือเขาเลย เนื่องจากชุมชนถูกขาใหญ่ทำให้กลัว แม้กระทั่งตำรวจเองก็ไม่กล้าหือกับอำนาจมืด แต่ด้วยความกล้า บ้าดีเดือด และความจริงใจแบบดิบ ๆ ของบาทหลวงคิม แฮ อิล ในที่สุดก็มีหลาย ๆ คนมาเป็นกำลังหนุนให้เขาในการสืบคดีครั้งนี้

2. Graceful Family (2019) สืบซ่อนแค้น

เนื้อเรื่องซีรีส์เรื่องนี้ บอกได้เลยว่ามีความสนุก การดำเนินเรื่องดี ดูจบไปหนึ่งตอนต้องดูตอนต่อไปอีกเรื่อย ๆ  มันหยุดไม่ได้จริง ๆ ค่ะ และด้วยตัวละครแต่ละตัวที่นำเสนอออกมานั้นสื่อออกมาดีมาก นางเอก สวย รวย เก่ง และฉลาด ไม่ยอมคน ทำให้ซีรีส์มีความสนุกมากขึ้น ส่วนพระเอกช่วงแรกด้วยความที่เป็นทนายมือใหม่ เวลาทำคดีก็จะดูขัด ๆ นิดหนึ่ง เปิดฉากแรกพระเอกนางเอกก็ทะเลาะกันซะแล้ว ดูน่ารัก และตลกวนไป

ความรวยเป็นเหตุสังเกตุได้ เพราะรวยขนาดนี้ ใครล่ะที่ต้องเป็นผู้สืบทอดคนต่อไป หลังจากที่แม่นางเอกเสียชีวิตไปทำให้นางเอกถึงถูกส่งตัวไปอยู่เมืองนอก และด้วยเหตุที่ว่า นางเอกต้องการหาตัวฆาตกรที่ฆ่าแม่เธอ เธอจึงหันหน้าต่อสู้เต็มที่กับประธานบริษัทคนปัจจุบัน และต้องต่อสู้กับคนในครอบครัวที่ไม่มีใครชอบหน้านางเอกเลย จะบอกว่าฉากรวมตัวกันในครอบครัวนี้มันส์มากเลย นางเอกฟาดได้คือฟาด นอกจากนี้ยังคอยต่อสู้กับ Top ผู้ซึ่งคอยแก้ปัญหาและสร้างภาพให้กับบริษัท โดยที่ไม่สนใจเรื่องจรรยาบรรณความผิดชอบชั่วดีอะไรเลย กว่านางเอกจะสืบหาตัวฆาตกรได้ก็ทำเอาทุลักลุเลเลยเช่นกัน

ความรู้สึกที่ได้ดูซีรีส์เรื่องนี้ ผู้เขียนชอบตัวละคร นางเอกมากเลย ลืมนางเอกสายดราม่าเป็นคนดีเรียบร้อยไปได้เลย เพราะนางเอกเรื่องนี้ทั้ง สวย เก่ง ฉลาด ไม่ยอมคน ทำให้เรื่องนี้มีความสนุกมากยิ่งขึ้น อีกตัวละครที่ชอบมาก็คือ ฮันแจกุก รับบทโดย แบจองฮ๊ก เป็นหัวหน้า Top ที่คอยดูแลหน้าตาของบริษัทและความเรียบร้อยของครอบครัวนางเอก เป็นตัวละครที่โคตรเก่ง ฉลาด รู้ทันคน มีไหวพริบ เป็นตัวร้ายที่น่าทึ้งเลยก็ว่าได้

จะว่าไปเรื่องนี้ดูไปดูมา อ้าว! บทมันพลิกล็อกมากเลย เราจะได้เห็นอะไรหลาย ๆ อย่างในเรื่องนี้ เช่น คนรวยจัดงานศพให้ปลาต้องเกณฑ์คนมาไว้อาลัย ต้องรวยขนาดใหนถึงเชิญคนใหญ่คนโตมาได้ด้วย อีกช็อตล่ะกัน ฉากนางเอกติดคุก ฉากนี้เป็นฉากดึงดูผู้เขียนให้หาหนังมาดูเลยค่ะ ถึงติดคุกก็ไม่ได้ลำบากนะคะ รวยซะอย่าง ฮ่า ๆ

3.The Kominsky Method โคมินสกี้ ซะอย่าง Season 2

เป็นซีรีส์ที่เจาะลึกชีวิตของสองบุคคลสำคัญแห่งประวัติศาสตร์ ดร.มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ (MLK) และมัลคอล์ม เอ็กซ์ (X) ที่ไม่ได้เพียงแค่สะท้อนเรื่องราวความเป็นผู้นำทางการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิพลเมือง แต่ยังแสดงให้เห็นถึงชีวิตส่วนตัวในฐานะสามี พ่อ ลูกชาย และพี่ชายที่เต็มไปด้วยความซับซ้อน

ซีรีส์ถ่ายทอดให้เห็นชีวิตของสองผู้นำ โดยเชื่อมโยงบทบาทสำคัญของภรรยาของพวกเขา คอเร็ตต้า สก็อตต์ คิง (รับบทโดย เวรูช โอเปีย) และ เบตตี้ ชาบัซ (รับบทโดย เจย์มี ลอว์สัน) ที่ลุกขึ้นเป็นผู้นำเคียงข้างพวกเขา แม้ทั้งคู่จะเคยพบกันเพียงครั้งเดียว แต่พวกเขากลับเป็นแรงผลักดันให้กันและกัน และท้าทายมุมมองเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงในสังคม

เนื้อหาของ Genius: MLK/X จะพาผู้ชมย้อนกลับไปยังช่วงเวลาสำคัญทางประวัติศาสตร์ ทั้งการเคลื่อนไหวเพื่อความเท่าเทียม การประท้วง และการสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นต่อมา ซีรีส์ยังเน้นให้เห็นถึงความเป็นมนุษย์ของพวกเขาที่ต้องต่อสู้ทั้งในแถวหน้าและเบื้องหลัง เพื่อให้ได้มาซึ่งความยุติธรรมและสิทธิที่เท่าเทียม เรื่องราวของพวกเขาจะทำให้คุณได้สัมผัสถึงความมุ่งมั่น ความเสียสละ และการสร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคมที่ยังส่งผลมาถึงปัจจุบัน

4.Justice (2019)

เล่าถึงเรื่องราวของทนายความหนุ่มคนหนึ่งชื่อว่า อีแทคยอง (รับบทโดย ชเวจินฮยอก) ซึ่งได้ทำข้อตกลงไว้ชายหนุ่มอีกคนหนึ่งที่มีอำนาจมืดดั่งปีศาจชื่อว่า ซงอูยง (รับบทโดย ซนฮยอนจู) ซึ่งมีความเต็มใจที่จะเป็นปีศาจเพื่อครอบครัวของเขาเอง โดย อีแทคยอง ต้องทำให้เหล่าชั้นชนสูงพ้นความผิดหรือต้องโทษให้น้อยที่สุดเพื่อได้มาซึ่งเงินทองและอำนาจเป็นการแลกเปลี่ยน เนื่องด้วยความทะเยอทะยานในการล้างแค้นเพื่อน้องสาวของเขาได้หมดไป เขาเริ่มที่จะไล่ตามความทะเยอทะยานที่ใหญ่กว่า อย่างไรก็ตาม เขาได้ประสบกับเหตุการณ์อันตรายที่ไม่คาดคิดระหว่างที่ทำการสืบสวนคดีของนักแสดงสาวที่ค่อยๆหายตัวไปทีละคนซึ่งทำให้เขาเปลี่ยนความคิดตั้งแต่ตอนนั้น เรื่องราวจะเปิดเผยความจริงเบื้องหลังเหล่า VVIP ของเกาหลีใต้ออกมาให้ได้เห็นธาตุแท้กัน

5.I Wanna Hear Your Song (2019) อยากฟังเพลงนั้นของเธอ

ฮงอียอง (Se-Jeong Kim) สาวนักตีกลองทิมปานี ที่ความใฝ่ฝันของเธอคือการได้เข้าร่วมวงออเคสตร้า แต่ไม่ว่าจะเข้าร่วมการออดิชั่นกี่ครั้งเธอก็ไม่เคยผ่านการคัดตัวเลย ฮงอียอง ที่ยังไม่หยุดไล่ตามความฝันจึงตัดสินใจทำงานรับจ้างขับรถ เพื่อหาเงินให้พอลี้ยงตัวเองและมีเวลามากพอฝึกซ้อม ฮงอียอง ได้พบกับ จางยุน (Woo-jin Yeon) ชายปริศนาที่เข้าหาเธอ ด้วยเหตุผลเกี่ยวกับเหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อ 1 ปีที่แล้ว ซึ่งมันเป็นสาเหตุที่ทำให้ ฮงอียอง นอนไม่หลับในทุกคืน ซ้ำร้ายเธอยังไม่สามารถจดจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วง 3 เดือนนั้นของปีที่แล้วได้ จางยุน จึงเสนอตัวร้องเพลงกล่อมเป็นเพื่อนเธอทุกคืน เพื่อแลกกับเงินสัปดาห์ละหมื่นวอน แล้วใครจะไปคิดว่าเสียงร้องที่เพี้ยนได้โล่ของเขา มันจะสามารถกล่อมให้เธอนอนหลับฝันดีได้

ซีรี่ส์โรแมนติก ดราม่า กับเหตุฆาตกรรมในคืนฝนพรำ ที่ทำออกมาได้น่าติดตาม ชวนสงสัยตลอดทั้งเรื่อง ส่วนตัวผมเองชอบที่ซีรีส์ซ่อนความลับของตัวเองได้ดี คนดูอย่างเราเดาแทบไม่ถูกเลยว่าคืนฝนตกนั้นมันเกิดเหตุการณ์อะไรกันแน่ เมื่อตัวละครอย่าง ฮงอียอง เองก็ดูเหมือนว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับความสูญเสียไม่น้อย แต่ตลอดระยะเวลาที่เนื้อเรื่องดำเนินไปเรื่อย ๆ ซีรีส์ก็จะคลายปมปริศนามาทำให้คนดูรู้สึกว่า เอ๊ะ…หรือมันจะมีความลับอะไรมากกว่านั้น แต่ละตัวละครมีความน่าสงสัยว่าจะเป็นคนร้ายพอ ๆ กัน เพียงแต่พอกันในแง่ที่ว่าพวกเขาต่างไม่มีแรงจูงใจที่จะก่อเหตุ แต่เมื่อผลมันเกิดขึ้นมาแล้วมันจึงต้องมีชนวนเหตุแน่นอน

ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครเอกจะว่าฟินก็คงได้ จะว่าหน่วงก็คงไม่ผิดนักสำหรับ I Wanna Hear Your Song เรื่องนี้ เมื่อความสัมพันธ์ของพวกเขาพัฒนาบนความจริงที่ค่อย ๆ ถูกเปิดเผยมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้จะมีความรู้สึกที่ดีต่อกัน แต่ความรักที่ก่อตัวขึ้นบนความลับที่ยังไม่ถูกเปิดเผย มันก็สร้างความคลางแคลงใจให้กับทั้งสองคนอยู่ดี เมื่อภาพความทรงจำที่ไม่ปะติดปะต่อของ ฮงอียอง ก็ทำให้เธอรู้สึกผิดกับฝ่ายชาย ส่วน จางยุน ก็ไม่มั่นใจว่าตัวเองจะสามารถรักและให้อภัย คนที่อาจมีส่วนทำให้เขาสูญเสียได้หรือเปล่า

ตัวละครหลักนอกจากคู่พระนาง ฮงอียองกับจางยุนแล้ว ยังมี นัมจูวาน (Jae-rim Song) วาทยกรหนุ่มมาดนิ่ง ที่ไม่สามารถมองออกได้เลยว่า เขาเป็นคนดีหรือร้ายกันแน่ กับ ฮาอึนจู (Park Ji-Yeon) นักไวโอลินสาวสวย ที่แม้ภายนอกของเธอจะดูเย่อหยิ่ง แต่ส่วนลึกเธอแตกร้าวอยู่ภายในจากคำนินทาต่อว่าลับหลังของผู้คน ว่าเธอใช้เรือนร่างของตัวเองในการไต้เต้าจนมาถึงจุดนี้ ตัวละคร ฮาอึนจู อาจจะไม่ได้มีบทบาทต่อเนื่องเรื่องมากเท่าไหร่นัก แต่กับวาทยากร นัมจูวาน เรียกว่ามีผลกับเนื้อเรื่องโดยตรง เมื่อเขาเองก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในอดีต เพียงแต่จะเกี่ยวข้องในแง่มุมไหนไม่เปิดเผยก็แล้วกันครับ เพราะ นัมจูวาน คนนี้ก็เป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยหลักเช่นกัน

6.The Umbrella Academy ดิ อัมเบรลลา อคาเดมี่ Season 1

เริ่มที่ซีซั่นที่ 1พูดถึงเหล่าเด็กชาย-หญิง ทั้ง 7 ที่เกิดมาพร้อมกับพลังพิเศษ และถูกรับเลี้ยงด้วยเศรษฐีคนหนึ่งที่มีนิสัยค่อนข้างแปลกประหลาด ที่รับเลี้ยงเด็กทั้งหมด 7 และได้ตั้ง The Umbrella Academy ขึ้นมาเพื่อสร้างเด็กที่มีความสามารถขึ้นมาเป็นฮีโร่ โดยมีแต่ล่ะคนจะมีพลังแตกต่างกันและเมื่อเด็กทั้งหมดโตขึ้นก็แยกย้ายกันไปใช้ชีวิต จนวันหนึ่งเศรษฐีคนนั้นเสียชีวิตกะทันหัน ทำให้เหล่าพี่น้องต้องมารวมตัวกันอีกครั้งขาดแค่หมายเลข 5 ที่ได้หายตัวไปตั้งแต่สมัยเด็ก แต่วันเดียวกันนั้นเอง หมายเลข 5 สามารถวาปกลับมาได้ และมาพร้อมกับข่าวร้ายว่าอีก 14 วัน โลกจะถึงกาลอวสาน พี่น้องทั้ง 7 คนจึงต้องหาทางป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้น แต่ก็โชคร้ายที่ไม่สามารถทำแบบนั้นได้อย่างง่ายๆเพราะ The commission องค์กร ที่หมายเลข 5 ทำงานให้ ได้ส่งเฮเซลและชาช่ามาเพื่อป้องกันไม่ให้หมายเลข 5 ทำสำเร็จ แต่แล้วสุดท้ายโลกก็ถึงกาลอวสารโดยฝีมือของวานญา หมายเลข 5 จึงตัดสินใจที่จะพาพี่น้องทุกคนย้อนกลับไปเพื่อหาวิธีแก้ไขเรื่องนี้อีกครั้ง จบซีซั่น 1

7.The Flash วีรบุรุษเหนือแสง Season 6

เรื่องราวต่อเนื่องจากการรวมพลังฮีโร่ครอสโอเวอร์ ในเหตุการณ์ Crisis on Infinite Earths หลังขุมพลังสปีดฟอร์สได้ตายลง ทำให้เหล่ามนุษย์พลังความเร็วทั้งหลายได้รับพลังเพียงเท่าที่เหลืออยู่และจะไม่เพิ่มขึ้น และถ้าพลังความเร็วหมดลงพวกเขาจะต้องตาย แบรี่ อัลเลน (แกรนต์ กัสติน) ได้เหลือพลังสปีดเพียง 1% เท่านั้น ทำให้พวกเขาต้องหาทางกู้พลังที่เคยมีกลับมา เพื่อปราบเหล่าร้ายให้ได้อีกครั้ง

สมาชิกทีมแฟลชทั้งหมดที่รอดชีวิตจากซีซั่นที่แล้วจะกลับมาในซีซั่น 6 ซึ่งแน่นอนว่ารวมถึงตัวแฟลชเองด้วย ร่วมด้วยนักแสดงคนอื่นๆ เช่น ไอริส เวสต์ (แคนดิซ แพตตัน), เคทลิน สโนว์ (แดเนียล พานาบาเกอร์) และซิสโก ราโมน (คาร์ลอส วัลเดส)

ทอม คาวานาห์ นักแสดงจากแฮร์ริสัน เวลส์ จะรับบทเป็นตัวละครที่มี “ความเย้ายวน” เวอร์ชันใหม่ตามบทสัมภาษณ์กับ TV Guide รวมถึงรับบทเป็นพาไรอาห์ใน Crisis on Infinite Earths นอกจากนี้ ยังมีเคย์แนน ลอนส์เดล รับบทเป็นวอลลี่ เวสต์ ซึ่งกลับมารับบทนี้หลายตอน

ในแง่ของสมาชิกนักแสดงชุดใหม่วายร้ายหลักสองคนตัวแรกของThe Flash ซีซั่น 6 คือ Sendhil Ramamurthy นักแสดงจากซีรีส์ Heroesที่รับบทเป็น Dr. Ramsey Rosso (หรือที่รู้จักกันในชื่อ Bloodwork) แพทย์ที่พยายามกำจัดความตาย Iris จะได้พนักงานใหม่ที่Central City Citizenแม้ว่าจะยังไม่ได้เปิดเผยตัวตนของพวกเขาก็ตาม

ซีซั่น 6 ของซีรีส์ The CW จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ซีซั่น ซึ่งต่างจากซีซั่นก่อนๆ โดยจะมีเรื่องราว 2 เรื่องที่แยกจากกันเนื่องจาก ครอสโอเวอร์ของ Crisis on Infinite Earths Eric Wallace ผู้จัดรายการกล่าวกับ San Diego Comic-Con ว่า “ในอดีต เรามีตอนทั้งหมด 22 ตอน โดยมีตอนหนึ่งที่เป็นตัวร้าย…” เราจะนำ 22 ตอนเหล่านั้นมาแบ่งเป็น 2 นิยายภาพ

“นิยายภาพเล่มแรกจะออกฉายในครึ่งแรกของซีซันนี้ ซึ่งเป็นเรื่องราวที่จบในตัวเองโดยมี Dr. Ramsay กลายเป็น Bloodwork เราไปที่Crisisเพื่อพักเบรก จากนั้นจึงไปที่ครึ่งหลังซึ่งเป็นเรื่องราวที่จบในตัวเองอย่างสมบูรณ์ ซึ่งเป็นนิยายภาพเล่มที่สองพร้อมกับตัวร้ายตัวใหญ่ตัวที่สอง⁠—” ถึงแม้ว่าเรื่องราวที่สองจะเป็นอย่างไรนั้นยังไม่ได้รับการเปิดเผย

ผู้จัดรายการยังได้ยืนยันอีกด้วยว่าจะไม่มีการกระโดดข้ามเวลาจากซีซั่น 5 ซึ่งหมายความว่าแบร์รี่และไอริสยังคงโศกเศร้าจากเรื่องของนอร่า (เจสสิกา ปาร์กเกอร์ เคนเนดี้) ในซีซั่น 6

8.Joy of Life (2019) หาญท้าชะตาฟ้า ปริศนายุทธจักร

ซีรีส์จีนถือเป็นแหล่งกำเนิดพล็อตเรื่องสนุกสนานน่าติดตามให้เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ย้อนยุค  เรื่อง  Joy  of  Life : หาญท้าชะตาฟ้า  ปริศนายุทธจักร  เองก็มีพล็อตเรื่องแบบสมัยใหม่สนุกสนานน่าติดตามโดยมีเรื่องย่อเกี่ยวกับชีวิตของชายหนุ่มคนหนึ่งที่เกิดในยุคปัจจุบัน  จู่ ๆ เขาก็กลับมาเกิดใหม่ในร่างของทารกที่ชื่อว่าฟ่านเสียนโดยยังมีความทรงจำของชีวิตเดิม  เพราะความฉลาดหลักแหลมทำให้ชีวิตของเขาต้องเข้าไปพัวพันกับการเมืองเรื่องอำนาจภายในเมืองหลวง  ปริศนาของมารดาผู้ให้กำเนิดก็ค่อย ๆ เปิดเผยออกมาทำให้เขาได้ค้นพบเรื่องน่าประหลาดใจอีกหลาย ๆ เรื่องซึ่งทำให้ชีวิตในยุคสมัยโบราณของเขาไม่ธรรมดาอีกต่อไป

ความรู้สึกที่ได้ดูซีรีส์เรื่องนี้ถือว่าผิดคาดมาก  เพราะโดยภาพรวมของซีรีส์ให้ภาพเป็นไปในแนวทางการต่อสู้หักเหลี่ยมกันและกันของคู่ตรงข้าม  ตัวพระเอกอย่าง  ฟ่านเสียน(รับบทโดยจางรั่วหยุน)  ถือเป็นตัวชูโรงอย่างมาก!!!  ทั้งตลกโปกฮา  แถมยังไม่ยอมรักษามาดของคนหล่อเลยสักนิด  แต่กลับมีความเก่ง  ความเท่ห์  ไม่ว่าศัตรูคนไหน ๆ ก็เทียบไม่ติดเลยสักคนเดียว  เรียกว่าใครโดนความกวนของพระเอกเข้าไปต้องพากันปวดศีรษะไปตาม ๆ กัน  ส่วนนางเอกอย่าง  หลินหว่านเอ๋อร์(รับบทโดยหลี่ชิ่น)  ก็ตลกไม่แพ้กัน  ที่สำคัญสวยน่ารักสุด ๆ เรียกว่ายิ้มทีโลกของฟ่านเสียนและคนดูต่างสว่างสดใสไปตาม ๆ กัน

9.Hot Stove League (2019) ภารกิจเกมหวดพิชิตฝัน

ซีรีส์กีฬาเบสบอลจากเกาหลี ที่ประสบความสำเร็จกวาดทั้งชื่อเสียงและรางวัล สร้างปรากฏการณ์เป็นซีรีส์แนวกีฬาที่สามารถคว้าเรตติ้งในตอนจบไปได้สูงถึง 19.1% แถมตอกย้ำความสำเร็จ เมื่อ ‘นัมกุงมิน’ พระเอกของเรื่องสามารถคว้ารางวัลแดซัง (รางวัลใหญ่ที่สุด) เป็นครั้งแรกจากเวที 2020 SBS Drama Awards โดยในซีรีส์เรื่องนี้นัมกุงมินมารับบทเป็น “แพคซึงซู ” ผู้จัดการคนใหม่ของ ‘Dreams’ ทีมเบสบอลอาชีพที่เคยรุ่งโรจน์แต่ปัจจุบันกลับล่วงมาอยู่อันดับบ๊วยสุดของตารางถึง 4 ปีซ้อน และถึงแม้แพคซึงซูจะเคยพาทีมกีฬาประสบความสำเร็จมาแล้วมากมาย แต่เขากลับไม่เคยบริหารทีมกีฬาเบสบอลมาก่อน เมื่อได้ก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีม แพคซึงซูจึงทำการรื้อระบบภายในทีมรวมไปถึงขายนักกีฬาที่มีชื่อเสียงออกไป ท่ามกลางความไม่พอใจของหลาย ๆ คน และปัญหาที่ถาโถมเข้ามารอบด้าน แพคซึงซูก็ได้รับการช่วยเหลือจาก อีเซยอง (พัคอึนบิน ที่กำลังโด่งดังจาก Extraordinary Attorney Woo) หัวหน้าทีมบริหารจัดการ ผู้ไม่เคยสิ้นหวังในทีม Dreams และ ฮันแจฮี (โจบยองกยู พระเอกหนุ่มซีรีส์ The Uncanny Counter) หนึ่งในทีมบริหารจัดการที่คอยช่วยซัพพอร์ตงานต่าง ๆ เมื่อความท้าทายครั้งยิ่งใหญ่เริ่มต้นขึ้น พวกเขาจะสามารถพาทีมท้ายตารางกลับมาเรียกความเชื่อมั่นของแฟน ๆ เบสบอลได้หรือไม่ ห้ามพลาด “Hot Stove League ภารกิจเกมหวดพิชิตฝัน”

10.The Light in Your Eyes (2019) ย้อนเวลารัก

การเดินทางของวันวานและความรัก The Light In Your Eyes’ ซีรีส์เกาหลีแนวโรแมนติก-แฟนตาซี การันตีความสนุกด้วยการที่ “คุณคิมฮเยจา” ผู้รับบทนางเอกในวัยชรา สามารถคว้ารางวัลแดซัง ปี 2019 (Baeksang Arts Awards ครั้งที่ 55) มาครอง รวมถึง “คุณอีจองอึน” ที่รับบท มุนจองอึน แม่ของนางเอก ก็ได้รับรางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมจากซีรีส์รื่องนี้เช่นกัน โดยซีรีส์จะบอกเล่าเรื่องราวของ ‘คิมฮเยจา’ (รับบทโดย ฮันจีมิน) สาวสวยวัย 25 ปี ที่ตอนสมัยยังเด็กเธอพบนาฬิกาวิเศษที่สามารถทำให้เธอย้อนเวลาได้ หากแต่การย้อนเวลาในแต่ละครั้งต้องแลกมากับอายุที่เพิ่มขึ้นของเธอ วันหนึ่งพ่อของเธอประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ทำให้เธอพยายามย้อนเวลาเพื่อกลับไปช่วยพ่อ แต่เพราะเธอย้อนเวลาหลายครั้งเกินไป ทำให้เมื่อเธอสามารถช่วยชีวิตพ่อเอาไว้ได้ เธอกลับตื่นมาพบว่าตัวเองกลายเป็น ‘คุณยายคิมฮเยจา’ (รับบทโดย คิมฮเยจา) ในวัย 70 ปี ทำให้เธอสูญเสียชีวิตในวัยสาวและความฝันที่จะได้เป็นผู้ประกาศข่าวไปหมดสิ้น แต่แล้วเธอได้มาพบกับ ‘อีจุนฮา’ (รับบทโดย นัมจูฮยอก) เด็กหนุ่มที่ใช้ชีวิตไปวัน ๆ โดยไม่มีเป้าหมายในชีวิต เดิมทีเขามีความฝันอยากเป็นผู้ประกาศข่าว แต่เมื่อคุณย่าจากไปโลกของเขาก็พังทลาย เมื่อเขาได้พบกับคุณยายคิมฮเยจา ทั้งคู่ต่างได้เรียนรู้ความสำคัญและความหมายที่แท้จริงของคำว่า ‘เวลา และ ความรัก’

[/read]